‘วรินทร’ แรงไม่หยุดคว้าที่ 3 ศึกเสือภูเขานาชาติที่ประเทศตุรกี

‘วรินทร’ แรงไม่หยุดคว้าที่ 3 ศึกเสือภูเขานาชาติที่ประเทศตุรกี

 

 

 

“เสธ.หมึก” พล.อ.เดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ส่งนักกีฬาจักรยานเสือภูเขา และบีเอ็มเอ็กซ์ทีมชาติไทย เดินทางไปร่วมการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาครอสคันทรี่นานาชาติ 4 รายการ ในวันที่ 23, 25, 27 และ 31 ตุลาคม และการแข่งขันบีเอ็มเอ็กซ์ เวิลด์คัพ ซูเปอร์ครอส จำนวน 4 สนามรวด ระหว่างวันที่ 23-24 และ 30-31 ตุลาคม ที่เมืองซาการ์ยา ประเทศตุรกี ล่าสุด เมื่อวันจันทร์ที่ 25 ตุลาคม การแข่งขันจักรยานเสือภูเขานานาชาติ ที่ตุรกี เป็นการแข่งขันรายการ “ซาการ์ยา เบเลดิเยซี เอ็มทีบี คัพ” มีการชิงชัยกัน 2 รุ่นประกอบด้วย รุ่นประชาชนชาย และประชาชนหญิง ในสนามซาการ์ยา ไบค์ พาร์ค ทีมชาติไทยส่ง กีรติ สุขประสาท, อดิศักดิ์ ไตลังคะ และ พูนศิริ ศิริมงคล ในรุ่นประชาชนชายแข่งขัน 8 รอบ ระยะทางรอบละ 4.2 กม. ส่วนรุ่นประชาชนหญิง ประกอบด้วย วรินทร เพ็ชรประพันธ์, นาตาลี ปัญญาวัน, ศุภักษร นันตะนะ และ จริญญา สืบจากถิ่น แข่งขัน 6 รอบ

Advertisement

ผลการแข่งขันปรากฏว่า ในรุ่นประชาชนหญิง “พลอย” วรินทร เพ็ชรประพันธ์ ยังคงแรงต่อเนื่อง คว้าอันดับ 3 มาครองด้วยเวลา 1.24.29 ชั่วโมง เป็นการขึ้นโพเดี้ยมครั้งที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากได้อันดับ 3 จากสนามที่แล้วในรายการ “วาสิดี เอ็มทีบี คัพ” ด้านศุภักษร จบอันดับ 6 เวลา 1.28.19 ชั่วโมง, จริญญา จบอันดับ 8 เวลา 1.29.19 ชั่วโมง และ นาตาลี จบอันดับ 9 เวลา 1.30.09 ชั่วโมง แชมป์ประจำสนามตกเป็นของ เทเรซา วารุซโควา จากสาธารณรัฐเช็ก เวลา 1.20.38 ชั่วโมง อันดับ 2 อเดลา ฮูโลโบว่า จากสาธารณรัฐเช็ก เวลา 1.22.26 ชั่วโมง โดยมีนักปั่นที่จบการแข่งขันเพียง 10 คนจากที่ลงแข่งขัน 25 คน ส่วนรุ่นประชาชนชายที่มีนักปั่นลงชิงชัยกันกว่า 30 คน นักปั่นที่ผลงานดีที่สุดของทีมชาติไทยยังคงเป็น กีรติ จบอันดับ 12 เวลา 1.25.20 ชั่วโมง ถัดมาเป็น อดิศักดิ์ อันดับ 15 เวลา 1.26.11 ชั่วโมง ขณะที่ พูนศิริ ไม่จบการแข่งขันเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ ต้องออกจากการแข่งขันในรอบที่ 4 ส่วนแชมป์ประจำสนามตกเป็นของ เยฟเกนี่ เอฟกราฟอฟ จากรัสเซีย ด้วยเวลา 1.20.15 ชั่วโมง

พล.อ.เดชา กล่าวว่า “ผลงานในสนามที่สองของนักปั่นเมาเท่นไบค์ไทย ในรุ่นประชาชนชายขยับดีขึ้นเล็กน้อย ส่วนฝ่ายหญิงก็ยังคงรักษาความคงเส้นคงวาเอาไว้จากการได้ตำแหน่งอันดับ 3 ของ วรินทร เป็นสนามที่ 2 ติดต่อกัน น่าเสียดายก็คือคะแนนสะสมนักกีฬาจักรยานโลก ที่รายการนี้ทางเจ้าาพจดทะเบียนกับสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) เป็นคลาส 3 มีคะแนนสะสมให้เพียงอันดับ 1-5 วรินทร จะได้คะแนนสะสมเพิ่มอีก 4 คะแนน ส่วน ศุภักษร นาตาลี และจริญญา ไม่ได้คะแนนเพิ่ม สำหรับทีมเมาเท่นไบค์ไทยมีกำหนดลงแข่งขันรายการนานาชาติที่เมืองซาการ์ย่าอีกสองรายการ ประกอบด้วย เบเลดิเยซี่ เอ็มทีบี คัพ (คลาส 2) วันที่ 27 ตุลาคม และส่งท้ายวันที่ 31 ตุลาคม ในรายการเบเลดิเยซี เอ็มทีบี คัพ ไนต์ เรซ ซึ่งเป็นการแข่งขันคลาส 1 จึงขอเชิญแฟนจักรยานชาวไทยช่วยส่งแรงใจเชียร์นักปั่นไทยผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ Thaicycling Association ได้ตลอดเวลา”

พล.อ.เดชา กล่าวอีกว่า ขณะที่ทัพนักปั่นบีเอ็มเอ็กซ์ทีมชาติไทยประเดิมสนามบีเอ็มเอ็กซ์ เวิลด์คัพ ซูเปอร์ครอส 2021 ในการแข่งขันสนามที่ 5 ในวันเสาร์ที่ 23 ตุลาคม ไม่ค่อยดีนัก โดยนักปั่นทีมชาติไทยพลาดท่าตกรอบแรกทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น “เอ้” โกเมธ สุขประเสริฐ, “ฮิม” สมคิด ฮาระตะวัน, “เบสต์” เมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์ และ นายวิชิตพงษ์ มงคลศิริ ในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีชาย รวมทั้ง “ฟ้า” ชุติกาญจน์ กิจวานิชเสถียร และ “มิ้ง” วรัญญา แซ่แต้ ในรุ่นประชาชนหญิง รวมถึง “พลอย” ธนาภรณ์ โตทอง ในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีหญิง

Advertisement

นายกสองล้อไทย กล่าวต่อไปว่า ส่วนการแข่งขันสนามที่ 6 ในวันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคม นักปั่นล้อเล็กทีมชาติไทยทำผลงานได้ดีขึ้น โดยในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีชาย โกเมธ สุขประเสริฐ, เมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์ และ สมคิด ฮาระตะวัน ต่างก็กัดฟันขี่ฝ่าฝนผ่านรอบแรก เข้าไปชิงชัยเป็น 1 ใน 24 นักปั่นทั่วโลกในรอบสองซึ่งมีทั้งหมด 4 ฮีต ผลปรากฏว่า สมคิด จบอันดับ 5 ในฮีตที่ 4 โกเมธ เข้าเส้นชัยอันดับที่ 5 เมธาสิทธิ์ อันดับที่ 6 ในฮีตที่ 5 ตกรอบสองทั้งสามคน แต่ก็ยังดีเพียงพอที่จะได้คะแนนสะสมอันดับโลกของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) ซึ่ง สมคิด และโกเมธ คว้าไปรายละ 30 คะแนน ส่วน เมธาสิทธิ์ 15 คะแนน

“จากผลงานสองสนามที่ผ่านมา สำหรับนักปั่นรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีชายมีพัฒนาการที่ดีขึ้น ผลงานโดยเฉพาะสนามที่ 6 ในวันอาทิตย์เป็นที่น่าพอใจ อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าผลงานนักปั่นบีเอ็มเอ็กซ์หญิงไทยยังคงต้องปรับปรุงอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นทักษะ ความเร็วหรือความแข็งแกร่ง ซึ่งเมื่อเทียบกับนักปั่นในระดับเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น , จีน หรืออินโดนีเซียที่เป็นคู่แข่งสำคัญ สาวไทยเรายังเป็นรองอยู่มาก” พล.อ.เดชากล่าวในตอนท้าย

 

 

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image