ฟุตบอลโลก 2022 แบบฉบับกาตาร์ อื้อฉาว-เวลาใหม่-ไฮเทค-เพศที่สาม-โควิด
ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ เป็นฟุตบอลโลกที่เหมือนการแข่งขันในอดีตหลายครั้งที่ผ่านมา ทำให้วงการลูกหนังโลกตลอดปี 2022 จะได้รับผลกระทบทั้งในมุมที่ดีและไม่ดีแบบน่าจับตามอง
การที่กาตาร์เป็นเจ้าภาพ ทำให้ไม่สามารถแข่งขันในช่วงกลางปีเหมือนที่ชาติอื่นๆ เคยทำได้ เพราะระหว่างเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม จะเป็นช่วงหน้าร้อนที่อุณหภูมิในประเทศเจ้าภาพสูงมาก ซึ่งอาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายนักเตะได้ ทำให้ต้องหาช่วงเวลาใหม่
สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ(ฟีฟ่า) และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาหาช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด เพราะเป็นครั้งแรกที่ภูมิภาคตะวันออกกลางเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก จะขยับไปจัดช่วงต้นปี ก็จะไปชนกับกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2022 ฤดูหนาว ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ในเดือนกุมภาพันธ์ ต่อด้วยกีฬาพาราลิมปิก 2022 ในเดือนมีนาคม พอเข้าเดือนเมษายน ก็เป็นเดือนรอมฎอนอีก จึงเลือกช่วงเวลาปลายปี ที่เป็นหน้าหนาวของกาตาร์ ระหว่างวันที่ 21 พฤศจิกายน 8 ธันวาคม
วันเวลาแข่งขันที่ออกมา ส่งผลกระทบต่อเกมฟุตบอลลีกของหลายประเทศอย่างมาก โดยเฉพาะในยุโรปที่หลายประเทศเพิ่งผ่านช่วงเปิดฤดูกาลไปไม่นาน ทำให้ต้องเบรกไปช่วงหนึ่ง แม้แต่ในลีกออสเตรเลียก็ไม่แฮปปี้กับช่วงเวลานี้ จนทำให้มองกันว่าการเลือกกาตาร์เป็นความผิดพลาดและไม่เหมาะสมอย่างมาก
การเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกหนแรกของชาติจากดินแดนอาหรับมีเรื่องอื้อฉาวให้พูดถึงกันมากมาย เริ่มจากการที่มีเอกสารยืนยันว่ากาตาร์ติดสินบน ริคาร์โด้ เทเซียร่า อดีตประธานสมาพันธ์ฟุตบอลบราซิล และ **นิโกล่าส์ เลออซ อดีตประธานสมาพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้ รวมทั้งตัวแทนในทวีปแอฟริกาที่มีสิทธิออกเสียงอีกหลายคน ซึ่งเจ้าภาพก็ออกมาแก้ต่างว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริงในเวลาต่อมา
เดอะ การ์เดี้ยน สื่ออังกฤษ รายงานว่า มีการใช้แรงงานในการก่อสร้างสนามเกินความเหมาะสม จนทำให้มีผู้เสียชีวิตระหว่างปี 2010-2020 ไปแล้วกว่า 6,500 คน ซึ่งเป็นแรงงานจากหลายประเทศในเอเชีย อินเดีย 2,700 คน, บังคลาเทศ 1,000 คน, ปากีสถาน 1,600 คน, เนปาล 1,000 คน และศรีลังกากว่า 550 คน นอกจากนั้นยังดูแลเรื่องสวัสดิภาพของแรงงานไม่ดี จ่ายค่าจ้างที่ไม่สมน้ำสมเนื้อกับค่าครองชีพ จนรัฐบาลกาตาร์ต้องมาสะสางปัญหา เพิ่มค่าจ้างและดูแลเรื่องสวัสดิการเพิ่มเติม
เรื่องของเพศทางเลือกก็เป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงอย่างมาก เพราะกาตาร์มีกฎหมายที่เข้มงวดเกี่ยวกับคนรักเพศเดียวกัน ทำให้หลายคนกลัวที่จะไปร่วมเชียร์การแข่งขัน
จอช คาวาโย่ นักฟุตบอลชาวออสเตรเลีย ที่ออกมายอมรับว่าตัวเองเป็นเกย์ ให้สัมภาษณ์แบบชัดถ้อยชัดคำว่า เขาไม่กล้าไปเดินทางไปกาตาร์ เพราะกลัวการถูกลงโทษ
จอยซ์ คุก ประธานฝ่ายความรับผิดชอบต่อสังคมและการศึกษาของฟีฟ่า ยืนยันว่าตนได้มีการตกลงเรื่องนี้กับกาตาร์แล้ว และเจ้าภาพก็ยินดีที่จะให้มีสัญลักษณ์ต่างๆ เช่น ธงสีรุ้ง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชาวเพศทางเลือกในสนามแข่งขันได้
ส่วน นัสเซอร์ อัล-คาเทอร์ ซีอีโอของเวิลด์คัพ 2022 ก็ออกมายืนยันในลักษณะเดียวกันว่า จะทำตามระเบียบที่ฟีฟ่ากำหนดไว้ แต่เมื่อกาตาร์เคารพกฎที่เคยมีมา แขกที่เดินทางเข้ากาตาร์ก็ต้องเคารพกฎหมายของกาตาร์ด้วย
ถึงแม้จะโดนตรวจสอบและวิจารณ์อย่างหนักในหลายๆ ประเด็น แต่กาตาร์ก็เดินหน้าการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกที่ดูอลังการงานสร้างมากที่สุดครั้งหนึ่งในประติศาสตร์ โดยเฉพาะสนามแข่งขันที่ถูกออกแบบและสร้างขึ้นมาใหม่ รวมทั้งปรับปรุงจากสนามที่มีอยู่แล้วให้มาตรฐานสูงและไฮเทคยิ่งขึ้น ภายใต้แนวคิดความสะดวกสบาย, เข้าถึงง่ายและยั่งยืน ทุกสนามมีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศที่สามารถทำความเย็นให้อุณหภูมิอยู่ที่ 20 องศาเซลเซียส ให้เหมาะสมกับการแข่งขันได้อีกด้วย
8 สนามที่ใช้ในการแข่งขันครั้งนี้ ได้แก่ อัล เบย์ท สเตเดียม สังเวียนนัดเปิดสนามความจุ 60,000 ที่นั่ง ลูเซล อายคอนิก สเตเดียม ความจุ 80,000 ที่นั่ง เป็นสนามที่ความจุมากที่สุดใน 8 สนามของฟุตบอลโลกหนนี้ ออกแบบเป็นรูปไข่ หลังคาสามารถเปิด-ปิดได้ เพื่อรองรับในสถานการณ์ที่สภาพอากาศไม่ดี อัล จานูบ สเตเดียม ความจุ 40,000 ที่นั่ง ออกแบบโดยได้แรงบันดาลใจมาจากเรือโดว์ที่ใช้โดยนักดำน้ำในย่านเปอร์เซีย หลังคาหดได้เพื่อใช้ในการควบคุมอุณหภูมิ และปรับอุณหภูมิในสนามให้ได้ 18-20 องศาเซลเซียส คาลิฟา อินเตอร์เนชั่นแนล สเตเดียม ความจุ 45,000 ที่นั่ง ได้รับการประเมิน 4 ดาวจากระบบการประเมินความยั่งยืนทั่วโลก
ราส อาบู อาบูด ความจุ 40,000 ที่นั่ง นำเอาตู้คอนเทนเนอร์ที่ไม่ใช้แล้ว กลับมาใช้ใหม่ ตามแนวคิดเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด ถูกยกให้เป็นสนามที่จะเป็นต้นแบบในการสร้างสนามอื่นๆ ในอนาคต ที่ใช้วัสดุรีไซเคิลกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างน่าทึ่ง เอดูเคชั่น ซิตี้ สเตเดียม ความจุ 40,000 ที่นั่ง ได้รับการประเมิน 5 ดาวจากระบบการประเมินความยั่งยืนทั่วโลก อัล รายยัน สเตเดียม ความจุ 40,000 ที่นั่ง เคยเป็นศูนย์กีฬามาก่อน แต่ได้มีการรื้อถอนก่อน และใช้เศษหินเศษปูน 90 เปอร์เซ็นต์ มาใช้สร้างสนามแห่งใหม่ อัล ธุมามา สเตเดียม ความจุ 40,000 ที่นั่ง ออกแบบให้เป็นรูปทรงหมวกกะปิเยาะ หมวกที่ผู้ชายในตะวันออกกลางนิยมใส่กัน บ่งบอกถึงการเอาวัฒนธรรมมาควบรวมกับกีฬาและเทคโนโลยีได้ รอบๆ ของสนามแห่งนี้ยังเป็นสวนสาธารณะพื้นที่ถึง 50,000 ตารางเมตร
สำหรับที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายแน่นอนแล้วมีทั้งหมด 13 ชาติ ได้แก่ กาตาร์ในฐานะเจ้าภาพ, เยอรมนี, เดนมาร์ก, บราซิล, ฝรั่งเศส, เบลเยียม, โครเอเชีย, สเปน, เซอร์เบีย, อังกฤษ, สวิตเซอร์แลนด์, เนเธอร์แลนด์, อาร์เจนตินา
ส่วนอีก 19 ทีมจะคัดเลือกกันต่อในปี 2022 มีประเด็นที่น่าจับตามองในโซนยุโรป ที่อิตาลีกับโปรตุเกสร่วมสายเพลย์ออฟ และในสายจะมีแค่ทีมเดียวเท่านั้นที่จะได้ตั๋วไปแข่งขัน ทำให้เป็นที่แน่นอนแล้วว่า จะต้องไม่มีทีมบิ๊กเนม 1 ใน 2 ทีมนี้ในเวิลด์คัพ 2022 อยู่ที่ว่าใครจะทำได้ดีกว่า แล้วได้ตั๋วใบสำคัญนี้
ในส่วนของโซนเอเชีย อิหร่าน, ซาอุดิอาระเบีย, เกาหลีใต้ มีภาษีที่ดีที่จะได้ไปแข่งขันอีกครั้ง ขณะที่ญี่ปุ่นยังต้องลุ้นอีกพอสมควร
การจับสลากแบ่งสายจะมีขึ้นในวันที่ 1 เมษายน ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ โดยจับก่อนที่รอบคัดเลือกจะจบลง ส่วนนัดเปิดสนามจะมีขึ้นในวันที่ 21 พฤศจิกายน ที่อัล เบย์ท สเตเดียม ต้องรอดูว่ากาตาร์ เจ้าภาพที่จะเตะนัดเปิดสนาม จะร่วมกลุ่มกับทีมไหนบ้าง
ฟุตบอลโลก 2022 จะเป็นครั้งสุดท้ายที่มี 32 ทีม ในอีก 4 ปีข้างหน้าที่เม็กซิโก, สหรัฐอเมริกา, แคนาดา จะเป็นเจ้าภาพ ได้มีการเพิ่มให้เป็น 48 ทีม
สุดท้ายสิ่งที่ทั่วโลกยังเป็นห่วง คือ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังไม่จบง่ายๆ และอาจจะยังไม่จบในช่วงที่ฟุตบอลโลก 2022 ฟาดแข้งกันอยู่ จนถึงตอนนี้ยังไม่มีข้อบังคับใดๆ เกี่ยวกับแฟนบอลที่จะเข้าชมเกมในสนามว่าจะต้องฉีดวัคซีนหรือไม่ เจ้าภาพและฟีฟ่ากำลังพิจารณาแนวทางที่เหมาะสมที่สุดและจะประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
แต่ฟีฟ่าได้ออกแถลงการณ์ว่า การที่ทั้งนักเตะ สต๊าฟโค้ช แฟนบอลและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้รับวัคซีนครบถ้วนก่อนการแข่งขันเป็นเรื่องที่ดีอย่างมาก
เวลาอีก 10 เดือนกว่าๆ จะได้ดูฟุตบอลโลกแบบฉบับอาหรับครั้งแรกในประวัติศาสตร์กันแล้ว แม้ว่าจะเตะกันในทวีปเอเชีย แต่ก็ยังต้องอดหลับอดนอนเหมือนเดิม เพราะแบ่งช่วงเวลาแข่งขันเป็น 17.00 น., 22.00 น., 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
นับถอยหลังรอลุ้นกันว่าชาติไหนจะเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 อีกไม่นานคงได้รู้กัน
