‘สเปอร์ส’ ไร้ ‘ซน’ เปิดบ้านรับ ‘เชลซี’ เกมชี้ชะตาคาราบาว
ศึกฟุตบอลคาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศนัดที่สอง “ไก่เดือยทอง” ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ เตรียมเปิดท็อตแนม ฮอตสเปอร์ สเตเดียม ต้อนรับการมาเยือนของ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี คืนวันที่ 12 มกราคม เวลา 02.45 น. ถ่ายทอดสดทางพีพีทีวี เอชดี ช่อง 36
ทั้งสองทีมเพิ่งตีตั๋วผ่านเข้าสู่รอบ 32 ทีมสุดท้ายในศึกเอฟเอ คัพ มาด้วยกันทั้งคู่ เรื่องสภาพความฟิต อาการล้าสนามที่ต้องเล่นติดต่อกันไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบกันอย่างแน่นอน โดยเฉพาะทีมเยือนเชลซี ที่กุมความได้เปรียบมาก่อนในนัดแรกด้วยผลสกอร์ 2-0 ดังนั้นเกมนี้สเปอร์ส ที่ไม่มีทางเลือกอื่นใด จะต้องเดินหน้าเต็มสูบเพื่อหวังยิงประตูไล่มาคืนมาให้ไวที่สุดก่อนสถานเดียวเท่านั้น เพื่อโอกาสเข้ารอบสู่เวมบลีย์ต่อไป
ความพร้อมของผู้เล่นทั้งสองทีม
ในส่วนของเจ้าบ้าน อันโตนิโอ คอนเต้ นายใหญ่ของสเปอร์ส จะหมดสิทธิใช้งานแนวรุกคนสำคัญอย่าง ซน ฮึงมิน ดาวยิงตัวเก่งที่มีอาการบาดเจ็บเล่นงานอยู่ รวมทั้งสตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น ปีกตัวจี๊ดที่จะพลาดลงสนามช่วยทีมเช่นกันจากอาการบาดเจ็บ ส่วนข่าวดีของทีมจะได้ตัว เอริค ดายเออร์ ปราการหลังที่ฟอร์มกำลังดี กลับมาช่วยคุมแนวรับหลังหายจากอาการโควิด-19 ส่วนผู้เล่นคนอื่นๆ ฟิตพร้อมลงสนาม
ด้านทีมเยือนเชลซี โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือของทีม ยังคงขาดผู้เล่นในแนวรับคนสำคัญอยู่หลายตำแหน่งทั้ง รีส เจมส์ แบ็กขวาจอมบุก และเทรเวอร์ ชาโลบาห์ ดาวรุ่งสารพัดประโยชน์ ที่มีอาการบาดเจ็บบริเวณเอ็นร้อยหวายเล่นงานด้วยกันทั้งคู่ รวมทั้งเบน ชิลเวลล์ ที่ขึ้นเขียงผ่าตัดจนต้องปิดเทอมยาวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และยังมี เอดูอาร์ เมนดี้ นายทวารคนสำคัญที่ติดภารกิจรับใช้ทีมชาติในศึก แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ แต่ก็ยังได้รับข่าวดีหลัง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ห้องเครื่องตัวเก่ง และติอาโก้ ซิลวา เซ็นเตอร์ประสบการณ์สูง จะสลัดอาการป่วยกลับมาฟิตพร้อมลงสนามช่วยทีมเกมนี้
11 ตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม
สเปอร์ส : อูโก้ โยริส, ดาวินซอน ซานเชซ, เบน เดวิส, เอริค ดายเออร์, เอเมอร์ซอน โรยัล, เซร์คิโอ เรกีลอน, โอลิเวอร์ สคิปป์, ปิแอร์ เอมิล ฮอยเบิร์ก, แฮร์รี่ วิงค์ส, ลูคัส มูร่า, แฮร์รี่ เคน
เชลซี : เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า, มาล็อง ซาร์, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, มาร์กอส อลอนโซ่, ซาอูล ญีเกซ, จอร์จินโญ่, เมสัน เมาท์, ฮาคิม ซิเยค, ไค ฮาแวร์ตซ์, โรเมลู ลูกากู
ผลงานย้อนหลัง 5 นัดล่าสุด
สเปอร์ส
ชนะ คริสตัล พาเลซ 3-0 (พรีเมียร์ลีก)
เสมอ เซาธ์แฮมป์ตัน 1-1 (พรีเมียร์ลีก)
ชนะ วัดฟอร์ต 1-0 (พรีเมียร์ลีก)
แพ้ เชลซี 0-2 (เอฟเอ คัพ)
ชนะ มอร์แคมบ์ 3-1 (คาราบาว คัพ)
เชลซี
ชนะ แอสตันวิล่า 3-1 (พรีเมียร์ลีก)
เสทอ ไบรท์ตัน 1-1 (พรีเมียร์ลีก)
เสมอ ลิเวอร์พูล 2-2 (พรีเมียร์ลีก)
ชนะ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส 2-0 (เอฟเอ คัพ)
ชนะ เชสเตอร์ฟิลด์ 5-1 (คาราบาว คัพ)
สถิติที่น่าสนใจ
-ทั้งสองทีมเจอกันในถ้วยลีก คัพ มาแล้วทั้งหมด 8 ครั้ง และเป็น 4 ครั้งที่เจอกันในรอบรองชนะเลิศ
-สเปอร์ส ไม่เคยบุกเอาชนะเชลซี ได้ในเกมลีก คัพ ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ โดยเสมอ 1 และแพ้ 3 นัด
-เชลซี ชนะ 6 จาก 7 เกมหลังสุดใน ลีก คัพ รอบรองชนะเลิศ
คาดการณ์รูปเกม
เจ้าบ้านท็อตแนม สเปอร์ส ไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากต้องเปิดเกมบู๊แลกใส่ตั้งแต่วินาทีแรก และต้องรีบยิงประตูตีเสมอที่ห่างถึง 2 ลูกให้ไวที่สุดหากยังมองถึงการเข้ารอบชิงชนะเลิศอยู่ ขณะที่ทีมเยือนเชลซี พวกเขาไม่มีอะไรต้องกดดันกับสกอร์ที่ตุนไว้ในเกมนัดแรก แต่ก็จะประมาทลูกทีมของอันโตนิโอ คอนเต้ ไม่ได้เด็ดขาด โดยเฉพาะการได้ลงเล่นต่อหน้าแฟนบอลในสนาม เสียงเชียร์ และแรงหนุนจากแฟนบอลจะช่วยให้ผู้เล่นของทัพไก่เดือยทอง มีแรงเดินหน้าไล่บี้เชลซีตลอด 90 นาทีเต็มอย่างแน่นอน โดยเฉพาะศักดิ์ศรีการเป็นศึกลอนดอนดาร์บี้
แบบนี้แล้วยิ่งทำให้เกมดูน่าสนุกทวีคูณเพิ่มขึ้นไปอีกกับการชิงตั๋วสู่นัดชิงชนะเลิศ ที่สนามเวมบลีย์ และหากไม่มีอะไรผิดพลาดลูกทีมของ โธมัส ทูเคิล น่าจะเก็บชัยชนะออกไปได้อย่างแน่นอน
