‘เมสซี่เจ’ ชนาธิป สรงกระสินธ์  บทพิสูจน์ก้าวใหม่ใน ‘ฟรอนตาเล่’

‘เมสซี่เจ’ ชนาธิป สรงกระสินธ์  บทพิสูจน์ก้าวใหม่ใน ‘ฟรอนตาเล่’

 

 

หลังจากที่ทัพ “อัซซูร่า เนโร่” คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ แชมป์เจลีก 4 สมัย สร้างดีลประวัติศาสตร์ด้วยการคว้าตัว “เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ เพลย์เมกเกอร์ทัพช้างศึก ชุดแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 ไปร่วมทีมด้วยค่าตัว 130 ล้านบาท กลายเป็นแข้งที่แพงสุดในอาเซียนเวลานี้

 

Advertisement

 

แฟนบอลชาวไทยต่างรอกันไม่ไหวแล้วที่จะได้เห็นลีลาการกระชากลากเลื้อย อันสุดสะเด่าเร้าใจของเมสซี่เจ ในสีเสื้อฟรอนตาเล่ ลุยศึกเมจิ ยาสุดะ เจวันลีก และถ้วยใหญ่ในเอเชียอย่าง เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ที่กำลังจะเปิดม่านขึ้น

Advertisement

 

 

แม้จะมีประสบการณ์ในแดนปลาดิบมาแล้วถึง 4 ปีเต็มๆ กับคอนซาโดเล่ ซัปโปโร พร้อมทั้งติดทีมยอดเยี่ยมของเจลีกมาแล้วในปี 2018 แต่อย่าลืมว่าการย้ายมาอยู่กับยอดทีมในเจลีกที่ถูกขนานนามว่าเป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แห่งทวีปเอเชีย ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการต่อบอลแบบเท้าสู่เท้า และจังหวะการเข้าทำที่แม่นยำเกิดต้านทานแบบนี้แล้ว

 

 

ยิ่งเป็นความท้าทายของ “เจ ชนาธิป” เลยว่าเขาจะสามารถยกระดับฝีเท้าของตัวเองขึ้นมาเป็นยอดแข้งในเจลีกได้สมกับเม็ดเงินที่ฟรอนตาเล่ยอมควักกระเป๋าจ่ายแบบมหาศาลได้หรือไม่..?

 

 

โดยเฉพาะหากเจาะลึกลงไปในแผนการทำทีมของ โทรุ โอนิกิ กุนซือมากประสบการณ์วัย 47 ปี ที่ใช้ระบบแผนการเล่นที่หลากหลาย เป็นบอลเกมรุกดุดัน จนพาทีมประสบความสำเร็จไล่กวาดแชมป์เจลีกถึง 4 ครั้งในปี 2017, 2018, 2020 และ 2021 ก็ยิ่งน่าคิดว่าตำแหน่งที่ดีอยู่แล้วในแผงมิดฟิลด์ของทีม จะทำให้ชนาธิปไปลงเล่นเป็นตัวจริงแทนใคร…???

 

 

การปล่อยตัว เรโอะ ฮาตาเตะ ดาวรุ่งอนาคตไกลไปอยู่กับ กลาสโกว์ เซลติก ในลีกสกอตแลนด์ จะทำให้ฟรอนตาเล่ เหลือโควต้ามิดฟิลด์ตัวรุกว่างอยู่ 1 ที่แบบพอดิบพอดีก็จริง แต่ชนาธิป ก็ไม่ได้ย้ายมาเพื่อทดแทนการันตีตำแหน่งตัวจริงในส่วนที่ขาดหายไปตรงนี้

 

 

แต่ “เจ ชนาธิป” จะต้องต่อสู้ และทำงานให้หนักมากยิ่งขึ้นเพื่อแย่งชิงการลงสนามเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริง กับแข้งตัวเก่าที่ยังคงอยู่กับทีมอีกหลายราย อาทิ ยาซุโตะ วากิซากะ จอมทัพหมายเลข 8 วัย 26 ปี ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในฤดูกาลที่ผ่านมากับผลงาน 3 ประตูกับอีก 4 แอสซิสต์ จากการลงเล่นในเจลีกทั้งหมด 35 นัด แถมทั้ง ยาซุโตะ วากิซากะ ยังเป็นแข้งก้นกุฎิที่อยู่กับทีมมาตั้งแต่รุ่นเยาวชน จนขึ้นมาตัวหลักให้กับทีมในปัจจุบัน

 

 

อีกคนคือ เรียวตะ โอชิมะ ห้องเครื่องจอมเก๋าที่ค้าแข้งกับฟรอนตาเล่มาแล้วถึง 12 ฤดูกาล แม้ซีซั่นที่ผ่านมาเจ้าตัวจะได้รับอาการบาดเจ็บ จนต้องพักรักษาตัวไปเกือบปี ก่อนจะกลับมาลงช่วยทีมได้ในช่วงท้าย แต่ด้วยประสบการณ์ในเจลีกที่ล้นเหลือทำให้ฟรอนตาเล่จะขาดแข้งตัวเก๋ารายนี้ไม่ได้เด็ดขาด

 

 

รวมถึง คาซุกิ โคซึกะ แนวรุกวัย 27 ปี ที่เพิ่งย้ายจากโออิตะ ตรินิต้า มาอยู่กับทีมเมื่อซีซั่นที่แล้ว แม้โคซึกะ จะถูกดึงมาใช้เป็นอะไหล่ในฐานะผู้เล่นสำรอง แต่เขาก็เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ชนาธิปจะประมาทไม่ได้อย่างเด็ดขาด หากฤดูกาลนี้โคซึกะ เกิดเค้นฟอร์มเก่งขึ้นมาได้ก็ยิ่งจะทำให้การแข่งขันในทีมเพิ่มมากขึ้น

แนวรุกทั้ง 3 รายที่กล่าวมานี้ เป็นคู่แข่งโดยตรงที่เมสซี่เจ จะต้องรีบเค้นฟอร์ม และเรียนรู้แทคติกของ โทรุ โอนิกิ ให้ได้ไวที่สุด เพื่อที่เขาจะได้ลงสนามไปผสานงานร่วมกับ เลอันโดร ดามิเยา จอมถล่มประตูของฟรอนตาเล่ และเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ ได้อย่างเข้าขารู้ใจ

ตัวของชนาธิปเอง หลังจากที่พ้นการกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ก็ได้ลงสนามซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมใหม่เป็นมื้อแรกเรียบร้อยแล้ว

 

 

 

บรรยากาศการต้อนรับซูเปอร์สตาร์จากไทยก็เป็นไปอย่างอบอุ่น โดยกับมี เทน มิยางิ แข้งแนวรุกลูกครึ่งญี่ปุ่น-เมียนมา เป็นคู่ฝึกซ้อมคนแรก

ตอนนี้การปรับตัวคงไม่ใช่ปัญหาอะไรแล้วสำหรับชนาธิป กับประสบการณ์ในเจลีก 4 ปีที่ผ่านมา เหลือแค่เข้าใจรูปแบบเกม และเรียนรู้แทกติกของฟรอนตาเล่ ให้ได้เพียงเท่านั้น แถมยังเคยให้สัมภาษณ์ในวันเปิดตัวอีกว่า

“การเลือกเส้นทางใหม่เป็นหนึ่งในความท้าทายในชีวิต จะทำให้เต็มที่ สู้เพื่อทีม เพื่อคนไทยและแฟนบอล เล่นเพื่อแชมป์ และอยากเป็นแชมป์มากๆ ขอบคุณฟรอนตาเล่ที่ให้โอกาส เป็นเกียรติที่ได้ร่วมทีมที่ยิ่งใหญ่ในเจลีก และขอบคุณซัปโปโรที่ให้โอกาสตลอด 4 ปี ในฐานะนักเตะใหม่จะทำอย่างเต็มที่” ชนาธิปแสดงให้เห็นถึงความกระหายในการลุ้นไล่ล่าแชมป์กับต้นสังกัดใหม่

 

 

ซึ่งก็น่าคิดเหมือนกันว่าหากเมสซี่เจ สามารถโชว์ฟอร์มเก่งได้ทันทีนับตั้งแต่ย้ายไปฤดูกาลแรก เขาจะมีโอกาสได้เดินตามรอย เรโอะ ฮาตาเตะ และคาโอรุ มิโตมะ 2 อดีตแข้งตัวเก่งของทีมที่โกอินเตอร์ไปค้าแข้งในยุโรปบ้างหรือไม่…

แฟนบอลชาวไทยมีโอกาสได้ร่วมลุ้นชมฝีเท้าของชนาธิป นัดแรกในสีเสื้อฟรอนตาเล่ เกมที่จะดวลกับ อูราวะ เร้ด ไดม่อนส์ ในศึกฟุตบอล เจแปนนิส ซูเปอร์ คัพ วันที่ 12 กุมภาพันธ์นี้

ขณะที่เกมเจลีกนัดแรกจะได้เปิดสนามคาวาซากิ โทโดโรกิ ต้อนรับการมาเยือนของ เอฟซี โตเกียว ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์

แฟนบอลโปรดติดตามเส้นทางการค้าแข้งในศึกเจลีกของ “เจ ชนาธิป” กับต้นสังกัดใหม่

เดอะ โชว์ มัส โก ออน…

 

 

 

 

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image