‘เสี่ยวินิจ’ เยือน ‘เครือมติชน’ เปิดใจไม่เคยของบฯ รัฐบาล 400 ล้านจัดแดงเดือด ‘แมนฯ ยู VS ลิเวอร์พูล’

‘เสี่ยวินิจ’ เยือน ‘เครือมติชน’ เปิดใจไม่เคยของบฯ รัฐบาล 400 ล้านจัดแดงเดือด ‘แมนฯ ยู VS ลิเวอร์พูล’

 

 

ความเคลื่อนไหวการจัดการแข่งขันฟุตบอลนัดประวัติศาสตร์ “THE MATCH Bangkok Century Cup 2022” การพบกันระหว่าง “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่ราชมังคลากีฬาสถาน วันที่ 12 กรกฎาคม โดยนายวินิจ เลิศรัตนชัย ผู้บริหารบริษัท เฟรชแอร์เฟสติวัล จำกัด เป็นโต้โผใหญ่ในการจัดการแข่งขันครั้งนี้

ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ นายวินิจ เลิศรัตนชัย เดินทางมาที่บริษัท มติชน จำกัด(มหาชน) พร้อมให้สัมภาษณ์กับ หนังสือพิมพ์มติชน, มติชนออนไลน์, ข่าวสด, มติชนทีวี และประชาชาติธุรกิจ ถึงความคืบหน้าล่าสุดของการจัดการแข่งขันนัดนี้ แบบเอ็กซ์คลูซีฟ

Advertisement

นายวินิจ เปิดเผยว่า การแข่งขันครั้งนี้ ใช้เวลานานมาก ทำงานกันมา 2 ปีเศษ ตอนแรกคุยกับลิเวอร์พูลก่อนเพื่อหวังจะพามาฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีกที่ประเทศไทย แต่เจอปัญหาโควิด-19 เลยทำให้พับแผนไป แล้วเอเย่นต์คนเดิมได้ติดต่อมาอีกครั้ง เลยเสนอไปว่าถ้าจะมาอยากได้ลิเวอร์พูล ปะทะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จึงได้เริ่มเจรจากัน มันเป็นการติดต่อที่ยากเพราะปกติทีมเดียวก็ยากอยู่แล้ว นอกจากประเทศไทยก็มีอีกหลายประเทศที่อยากได้ เพราะมันคือประวัติกาล นานๆ สองทีมนี้จะออกมาเจอกันนอกเกาะอังกฤษ

เจ้าพ่ออีเวนต์เมืองไทย กล่าวต่อว่า สาเหตุที่ทั้งสองทีมเลือกประเทศไทยนั้น ตนพยายามใช้ทุกเหตุผลเข้ามาทั้งเรื่องงบประมาณ การทำงานต่างๆ สิ่งที่คิดว่าเอาชนะได้คือ ประเทศไทยสามารถเป็นศูนย์กลางของเอเชียได้ เป็นประเทศที่มีแฟนบอลทั้งสองทีมไม่เป็นรองใคร และสามารถเป็นศูนย์กลางให้คนเอเชียบินมาประเทศไทยได้สะดวก พร้อมต้อนรับทั้งทีม และแฟนบอล ดังนั้นน่าจะเป็นเหตุผลที่ตัดสินใจเลือกที่นี่ แม้ว่าฐานแฟนบอลในจีน หรือญี่ปุ่นอาจจะดีกว่า แต่คิดว่าเงื่อนไขไทยน่าจะง่ายกว่าทั้งสองประเทศ อีกทั้งแฟนบอลจากอินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ หรือญี่ปุ่นเองก็เดินทางมาง่ายกว่า รู้สึกดีใจที่ทำให้ทั้งสองทีมเชื่อมั่นว่าประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเอเชียได้

Advertisement

ส่วนเรื่องกระแสราคาบัตรที่มีเสียงสะท้อนว่าราคาแพงไปหรือไม่นั้น นายวินิจ กล่าวว่า ทีมงานพยายามอยากให้ดีลนี้เข้าถึงคนได้มากที่สุดและเป็นไปได้ทั้งสองฝ่าย ก็ยอมรับว่าคงไม่คุ้นชินกับค่าตั๋ว แต่ถ้าลองนึกภาพจะไปดูเกมนี้ที่อังกฤษ ก็ต้องมีเงินระดับแสนบาทขึ้นไป บัตรราคานี้ในไทยหลายคนยังไม่เชื่อว่าจะจัดขึ้นได้ด้วยซ้ำ แต่ก็พยายามทำให้เกิดขึ้น ต้องมีผู้สนับสนุนอื่นๆ เป็นส่วนประกอบ เอาจริงๆ งบลงทุนครั้งนี้ต่อให้ขายบัตรได้หมดทุกที่นั่ง ยังไม่ได้ทุนในการจัดการแข่งขันเลยด้วยซ้ำ เรารู้ว่าทั้งสองทีมค่าตัวที่จะมามันเยอะมากๆ แต่ข้อหนึ่งที่ทำเอาไว้คือเกมนี้จะเป็นแบบเอ็กซ์คลูซีฟ มีแค่ที่ไทยที่เดียว ไม่มีบินไปจัดที่อื่นต่อด้วย ดังนั้นมันจึงเป็นเกมแห่งศตวรรษ

“เรื่องของนักเตะที่จะเดินทางมาแข่งขัน เราไม่สามารถเขียนบังคับในสัญญาได้ว่าจะให้ใครมาบ้าง เพราะถ้ามีปัญหาคงฟ้องร้องวุ่นวาย แต่ก็เชื่อมั่นความเป็นสโมสร เขาเขียนไว้ว่าเป็นชุดใหญ่มา ก็จะเป็นชุดใหญ่เดินทางมาแน่นอน แล้วความโชคดีคือ ปีนี้ไม่มีทัวร์นาเมนต์กลางปีเลย เนื่องจากฟุตบอลโลกย้ายไปปลายปีแทน ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกจะเปิดฤดูกาลเร็วขึ้น คอมมิวนิตี้ ชิลด์ เตะกันตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม ดังนั้นทั้งสองทีมก็ต้องเตรียมตัวเร็วขึ้น ถ้าหากมาเก็บตัวแล้วไม่ได้ฟูลทีมมา โค้ชก็คงไม่พอใจเช่นกัน เพราะต้องเรียกความฟิตนักเตะในช่วงเวลานั้น ดังนั้นนี้จะเป็นอีเวนต์ใหญ่กลางปี ที่จะเกิดขึ้นที่ประเทศไทยเท่านั้น” ซีอีโอเฟรชแอร์ กล่าวเพิ่มเติม

ส่วนประเด็นดราม่าเรื่องการของบจากรัฐบาล 400 ล้านบาทนั้น นายวินิจ ชี้แจงว่า จดหมายที่ส่งไปทางราชการคือ เรื่องของการขอใช้สนาม การสำรวจสนาม และขอความร่วมมือจากหน่วยงานรัฐบาล นำรายละเอียดไปเสนอ ยืนยันว่ามีการขอสนับสนุนจริง แต่ไม่เคยมีรายละเอียดเรื่องตัวเงินว่าขอเท่าไหร่หรืออย่างไร มันเป็นร่างเอกสารว่าถ้าเป็นแบบนี้ จะต้องทำอย่างไร ไม่ได้บังคับว่าต้องได้เงิน 400 ล้านบาท อยู่ที่จะช่วยแบบไหน ไม่ต้องช่วยเป็นเม็ดเงินก็ได้ เป็นการอำนวยความสะดวก ประชาสัมพันธ์ ดูแลความปลอดภัย มันไม่ต้องเป็นเงินอย่างที่ข่าวออกมา เชื่อว่าเรื่องนี้อาจจะเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image