ปีศาจแดงกับอริจากแดนกระทิงดุ อาถรรพ์ที่ทำให้ไปไม่ไกลในถ้วยยุโรป

ปีศาจแดงกับอริจากแดนกระทิงดุ อาถรรพ์ที่ทำให้ไปไม่ไกลในถ้วยยุโรป

“ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปิดฉากเส้นทางการลุ้นแชมป์ทุกรายการของตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากเปิดบ้านพ่ายแพ้ให้กับ “ตราหมี” แอตเลติโก้ มาดริด ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย 0-1 และตกรอบไปด้วยสกอร์รวม 1-2

ถือเป็นอีกหนึ่งครั้งที่ปีศาจแดงไม่สามารถเก็บผลการแข่งขันที่ดีในการเจอกับทีมจากสเปน เรียกได้ว่าแพ้ทางก็ไม่ผิดนัก โดยสถิติในการเจอกับทีมจากแดนกระทิงดุมาทั้งหมดในประวัติศาสตร์ 64 นัดรวมทุกรายการ แมนฯยู เก็บชัยไป 18 นัด เสมอ 24 นัดและแพ้ 22 นัด ยิงได้ 78 ประตู แต่เสีย 82 ประตู

จะเห็นได้ว่าตัวเลขของชัยชนะน้อยกว่าผลเสมอ และแพ้เสียอีก โดยอัตราการชนะอยู่ที่ 28.1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

Advertisement

ถ้าหากนับเฉพาะรอบน็อกเอาต์ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และยูโรป้า ลีก ตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา แมนฯยูลงเล่นกับทีมจากสเปนไปทั้งหมด 32 นัด แบ่งเป็น ชนะ 10 เสมอ 8 แพ้ 14 แม้จะมีสมหวังบ้าง ผิดหวังบ้าง แต่ถ้ามองในภาพรวม แมนฯยูมักเจองานที่ยากลำบากอยู่เสมอ โดยอัตราการชนะอยู่ที่ 31.3 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งยังไม่ถึงครึ่งเลยด้วยซ้ำ

นอกจากนี้ยังมีสถิติที่บ่งบอกชัดเจนเข้าไปอีกว่าแมนฯยู สามารถเก็บชัยชนะได้เพียงแค่ 5 ครั้ง จาก 31 นัดรวมทุกรายการที่ลงแข่งในฐานะทีมเยือน แถมไม่สามารถคว้าชัยชนะในแผ่นดินสเปนเลยเป็นเวลา 9 ปีติดต่อกัน ระหว่างปี 2008-2017

ทีมจากสเปนเป็นคู่ต่อกรที่ยากลำบากสำหรับปีศาจแดงครั้งแล้วครั้งเล่า โดยในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย ฤดูกาล 1999-00 แมนฯยูต้องลงโม่แข่งกับ “ราชันชุดขาว” รีล มาดริด แมนฯยูบุกไปเยือนก่อนในนัดแรก ได้ผลเสมอ 0-0 กลับมา ก่อนที่ในนัดที่สองจะมาโดนทีเด็ดของ ราอูล กอนซาเลซ ยิง 2 ประตู ในช่วงต้นครึ่งหลัง ทำให้แมนฯยูแพ้คาบ้าน และตกรอบไปด้วยสกอร์ 2-3

Advertisement

ในฤดูกาล 2002-03 ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย ทั้งคู่โคจรมาพบกันอีกครั้ง หลายคนมองว่านี่น่าจะเป็นนัดล้างตา และก็เป็น รีล มาดริดที่เอาชนะไปก่อนในนัดแรก 3-1 ที่สนามซานเตียโก้ เบร์นาเบว ก่อนที่นัดที่สอง พลพรรคปีศาจแดงจะกลับมามีแรงฮึด พลิกกลับมาชนะ 4-3 แต่สกอร์รวม 2 นัดเป็น รีล มาดริด ชนะไป 6-5 ย้ำแผลเดิมที่เคยฝากเอาไว้ 3 ปีก่อนหน้านั้น

นัดชิงชนะเลิศถ้วยบิ๊กเอียร์ ฤดูกาล 2008-09 เป็นการพบกันระหว่าง แมนฯยู กับ บาร์เซโลน่า โดยเป็นฝ่ายบาร์ซ่าเอาชนะไปได้ 2-0 แถมทั้งคู่ก็กลับมาเจอกันอีกในนัดชิงปี 2010-2011 และเป็นบาร์ซ่าโชว์ฟอร์มโหดชนะไป 3-1 ชนิดที่เวย์น รูนี่ย์ได้เดินไปบอกกับ ชาบี้ เอร์นานเดซ กองกลางบาร์ซ่าว่า “พวกนายชนะแล้ว เอาแชมป์กลับประเทศไปได้เลย แต่ช่วยหยุดส่งบอลไปรอบๆ ทีได้ไหม” ซึ่งแมนฯยูเคยเอาชนะบาร์ซ่าได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นในรอบน็อกเอาต์

ส่วนในศึก ยูโรป้า ลีก ปี 2011-12 รอบ 16 ทีมสุดท้าย แมนฯยู แพ้ให้กับ แอธเลติค บิลเบา แบบทั้งไปทั้งกลับ สกอร์รวม 2 นัด บิลเบาเอาชนะไปได้ 5-3 โดยมีสถิติที่น่าสนใจนั่นก็คือ 4 นัดที่ทั้งคู่พบกันมา แมนฯยูชนะได้เพียงหนเดียว และมีประตูเกิดขึ้นรวมกันถึง 19 ประตู นี่เป็นอีกครั้งที่ทำให้เห็นว่าการเจอกับทีมจากประเทศสเปน ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะผ่านไปได้ แม้ว่าจะเป็นทีมที่ชื่อชั้นจะห่างจากแมนฯยูมากน้อยแค่ไหนก็ตาม

ในฤดูกาล 2012-13 ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย รีล มาดริด พบกับ แมนฯยู อีกครั้ง โดยในนัดแรกจะต้องลงเล่นที่เบร์นาเบวก่อน ซึ่งแมนฯยูยังไม่เคยเก็บชัยชนะออกไปได้เลยแม้แต่หนเดียว และครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ทำไม่สำเร็จ โดยเสมอกัน 1-1 ก่อนที่นัดที่ 2 แมนฯยูจะมาโดนทีเด็ดของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อดีตเด็กเก่าโขกประตูชัย ให้รีลมาดริดบุกมาชนะ 2-1 ทำให้ปีศาจแดงต้องผิดหวังกับการพบกับทีมจากแดนกระทิงดุซ้ำแล้วซ้ำเล่า

แม้ว่าปีศาจแดงจะชนะ เซลต้า บีโก้ ในรอบรองชนะเลิศในศึกยูโรป้า ลีก ฤดูกาล 2016-2017 ด้วยสกอร์รวม 2 นัด 2-1 และก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์ในบั้นปลาย แต่ก็มาอกหักอีกครั้งในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย ฤดูกาล 2017-18 โดยครั้งนี้เป็นน้ำมือของ เซบีย่า การแข่งขันนัดแรก แมนฯยูบุกไปเสมอ 0-0 แต่นัดที่สองเป็นฝ่ายแมนฯยูที่โดนเล่นคาถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด 1-2 ยังคงเป็นอาถรรพ์ที่ยังแก้ไม่หาย เพราะผลงานในลีกของเซบีย่าในฤดูกาลนั้นก็ไม่ได้ดีเด่อะไรมากนัก อยู่กลางตารางเท่านั้น

ในนัดชิงยูโรป้า ลีก ฤดูกาลที่แล้ว แมนฯยูลงฟาดแข้งกับทัพ “เรือดำน้ำ” บียาร์รีล ซึ่งก่อนเกมกูรูหลายสำนัก และแฟนบอลทั่วโลกหลายคน ต่างยกให้แมนฯยู เป็นตัวเต็งที่จะเถลิงบัลลงก์แชมป์ แต่พอลงสนามกลับสวนทางกับสิ่งที่คาดคิด แม้แมนฯยูเป็นฝ่ายนวดเข้าใส่ก็จริง แต่ไม่สามารถส่งบอลเข้าไปในพื้นที่สุดท้ายได้มากนัก เนื่องจากผู้เล่นของบียาร์รีลเน้นยืนโซนตั้งรับ เสมอกันในเวลา 1-1 จนต้องไปลุ้นกันถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ และเป็น ดาบิด เด เกอา นายทวารทีมชาติสเปนของแมนฯยู จะซัดบอลไปติดเซฟผู้รักษาประตูของบียาร์รีล ทำให้แพ้ไปด้วยสกอร์ 10-11 และแมนฯยูก็พุ่งชนกับความผิดหวังอีกครั้ง

ทีมจากแดนกระทิงดุนับเป็นอีกหนึ่งอุปสรรคใหญ่ที่คอยขัดขาเส้นทางสู่ความสำเร็จของแมนฯยูมาตลอดช่วง 10-20 ปีที่ผ่านมา

หากแค่ด่านนี้ยังผ่านไม่ได้ ก็คงเป็นเรื่องยากที่จะประสบความสำเร็จในระดับยุโรป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image