‘อุบล’ พร้อมแล้ว จัดกีฬาม.อาเซียน 26 ก.ค.นี้ ยืนยันปลอดภัย-เงินสะพัดแน่นอน
รศ.ธรรมรักษ์ ละอองนวล รักษาราชการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี, นายสมชาติ พงคพนาไกร ประธานหอการค้ากลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนล่าง 2 และ ผศ.ดร.สาธิน ประจันบาน เลขานุการคณะอนุกรรมการฝ่าย ส่งเสริมกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ คณะกรรมการบริหารกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย (กกมท.) ร่วมกันแถลงความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยอาเซียน ครั้งที่ 20 ที่ ม.ราชภัฏอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม
รศ.ธรรมรักษ์กล่าวว่า จ.อุบลราชธานีมีความพร้อมในการจัดการแข่งขันมาอย่างต่อเนื่อง เพราะเดิมการแข่งขัครั้งนี้กำหนดการแข่งขันในปี 2563 แต่จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ต้องเลื่อนการแข่งขันเพื่อความปลอดภัยของทุกคน และในตอนนี้ทุกอย่างคลี่คลายลงแล้ว ทำให้ศึก ม.อาเซียน ครั้งที่ 20 พร้อมจะเดินหน้าแข่งขัน ระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม – 6 สิงหาคม ซึ่งจะมีนักกีฬาและเจ้าหน้าที่จากชาติต่าง ๆ ในอาเซียน จํานวน 11 ประเทศ เข้า ร่วมการแข่งขันกีฬาทั้งสิ้น 23 ชนิด ใช้สนามกีฬาภายใน ม.ราชภัฏอุบลราชธานี และสนามกีฬาต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดศรีสะเกษ โดยได้มีการก่อสร้าง สนามกีฬาในมหาวิทยาลัย ฯ เพื่อจัดการแข่งขันและใช้สําหรับการเรียนการสอนของนักศึกษา เพิ่มเติมขึ้นจากการเป็นเจ้าภาพกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 46 เมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา บริเวณพื้นที่หมู่บ้านเก้าหลังของมหาวิทยาลัย ที่มีการก่อสร้างอาคารกีฬาในร่ม อาคารปฏิบัติการทางพลศึกษา ซึ่งจะใช้เป็นสถานที่แข่งขันกีฬาฟุตซอล แบดมินตัน และวอลเลย์บอลชายหาด ส่วนที่ศูนย์กีฬามหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ศูนย์ การเรียนรู้บ้านยางน้อย มีการก่อสร้าง สนามแข่งขันกีฬาปีนหน้าผาแห่งใหม่ของประเทศ นอกจากนี้ยังมีการเตรียมการในด้านต่างๆ ให้ มีความพร้อมในการแข่งขันและต้อนรับนักกีฬาที่จะเดินทางมาร่วมการแข่งขัน ภายใต้มาตรการ ทางสาธารณสุขของ ศบค. และกระทรวงสาธารณสุข
รศ.ธรรมรักษ์กล่าวอีกว่า การแข่งขันครั้งนี้ยังเป็นต้นแบบการจัดกีฬาระดับนานาชาติให้กับชาวอุบลราชธานี ที่จะนำประสบการณ์ไปต่อยอดในอนาคต โดยเฉพาะในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในอีก 3 ปีข้างหน้า ที่ไทยจะได้เป็นเจ้าภาพ ซึ่งเชื่อว่าอุบลราชธานีมีความพร้อมอย่างมาก ทั้งสถานที่และบุคลากร
นายสมชาติกล่าวว่า กีฬา ม.อาเซียนจะสร้างเงินหมุนเวียนระหว่างการแข่งขันให้เศรษฐกิจของอุบลราชธานีกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งอาจจะดูไม่มาก เพราะนักกีฬาที่มาแข่งขันไม่มากเท่ากีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย หรือมหกรรมอย่างซีเกมส์ แต่ก็ถือว่ามาช่วยกระตุ้นให้จังหวัดมีความคึกคัก ทั้งการค้าและการท่องเที่ยวมากขึ้น ต่อยอดไปถึงการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ในอนาคตได้แน่นอน
ผศ.ดร.สาธินกล่าวว่า ครั้งนี้นักกีฬาไทยจะร่วมแข่งขัน 413 คน มีหลายกีฬาที่ได้ทีมชาติมาร่วมทีม ทั้งว่ายน้ำ, เรือพาย และอีกหลายชนิด เชื่อมั่นใจศักยภาพของนักกีฬาไทยจะคว้าเจ้าเหรียญทองได้อีกสมัยแน่นอน
