ออกกฎเหล็กยกเครื่องซีเกมส์ กำจัดกีฬาพื้นบ้านที่หลายชาติรุมยี้!
นายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ ประธานสหพันธ์มนตรีซีเกมส์ เผยผลการประชุมคณะกรรมการฝ่ายกฎ ข้อบังคับสหพันธ์กีฬาซีเกมส์ว่า เรื่องหลักคือ การแก้ไขกลุ่มชนิดกีฬา ที่จะถูกบรรจุในซีเกมส์ ครั้งต่อๆไป โดยในประวัติศาสตร์ซีเกมส์ 64 ปี ไม่เคยมีใครจะแก้ไข ครั้งสุดท้ายที่มีการแก้ไขคือ ซีเกมส์ 2017 ที่มาเลเซีย แต่ก็ยังมีจุดอ่อนอีกเยอะ ตอนนี้ที่เราเน้นเลยคือ กีฬาที่มีในโอลิมปิกเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์ และเอเชี่ยนอินดอร์และมาเชียลอาร์ตเกมส์ เราไม่เน้นกีฬาพื้นบ้าน ซึ่งเดิมเลือกได้ 8 ชนิดกีฬา ตอนนี้ลดลงเหลือเพียง 4 ชนิดกีฬาเท่านั้นถือว่าเจอกันตรงกลาง ส่วนกีฬาในกลุ่ม 1 เดิมทีมีเพียง 2 ชนิดกีฬาคือ กรีฑา กับว่ายน้ำ ก็ถูกเพิ่มขึ้นมาเป็น 12 ชนิดกีฬาซึ่งเป็นกีฬาในโอลิมปิกเกมส์ทั้งหมด ส่วนกลุ่ม 2 จะเป็นกีฬาที่กำลังรอบรรจุในโอลิมปิกเกมส์ และกีฬาในเอเชี่ยนเกมส์ ซึ่ง 2 กลุ่มนี้รวมกันจะอยู่ราว 37 ชนิดกีฬา หากรวมกับกีฬาพื้นบ้านของแต่ละประเทศอีก 4 ก็จะทำให้ซีเกมส์ แต่ละครั้งจากนี้จะมีการแข่งขันทั้งหมด 41 ชนิดกีฬา
นายชัยภักดิ์กล่าวต่อว่า นอกจากเรื่องของชนิดกีฬาแล้ว อีเวนต์ หรือจำนวนเหรียญที่จัดก็เช่นเดียวกัน จะยึดตามโอลิมปิกเกมส์ และเอเชี่ยนเกมส์ทั้งหมด ส่วนกีฬาพื้นบ้านจำกัดให้จัดได้เพียง 8 เหรียญทองเท่านั้น จะไม่มีอีกแล้วที่เจ้าภาพจะมาจัดกีฬาพื้นบ้าน 10-20 เหรียญทอง ส่วนกีฬาสาธิตจะเพิ่มจาก 1 เป็น 3 ชนิดกีฬา เพื่อให้โอกาสกีฬาอื่นๆอย่าง จานร่อน ชักเย่อ ฯลฯ เพราะฉะนั้นจากนี้ไปเราจะเห็นซีเกมส์ ในอีกรูปแบบหนึ่ง ไม่ใช่แบบเดิมนับจากนี้ไป
“แน่นอนว่ามีบางชาติไม่พอใจ แต่ตอนนี้เป็นเอกฉันท์ในที่ประชุมแล้ว เพราะเขาเถียงไม่ขึ้น บางประเทศก็จะเอากีฬาพื้นบ้านใส่เข้ามาอย่าง ฮอกกี้ใต้น้ำ แต่ในเมื่อคุณยังไม่มีสหพันธ์รองรับแล้วจะเข้ามาได้อย่างไร จากนี้เราคงจัดซีเกมส์เพื่อมิตรภาพไม่ได้ ไม่งั้นก็เน่า หลายชาติเริ่มจะรู้สึกแล้ว ถ้าอยากจัดจริงๆ ก็แยกไปอีกทัวร์นาเมนต์ จัดกีฬาพื้นบ้านอาเซียนไปเลย อย่าง สิงคโปร์ เขาก็บอกจะไม่ส่ง ถ้ายังเป็นแบบเดิม เพราะเสียเงินเปล่าๆ ฉะนั้นเราก็ต้องสู้ให้มันเป็นระบบ โดยธรรมนูญนี้จะไม่มีแก้อีกอย่างน้อย 6 ปีครึ่ง นับตั้งแต่ซีเกมส์ ที่ไทย มาเลย์เซีย สิงคโปร์ แต่หลังจากนั้น ซีเกมส์ ที่ลาว ไม่รู้ว่าจะมีการแก้กันอีกหรือไม่ แต่คงแก้ยากมากเพราะเราวางกฏมัดป้องกันไว้แล้ว” นายชัยภักดิ์กล่าว
