พรรครวมไทยสร้างชาติชูนโยบายกีฬา บอลไทยต้องไปบอลโลก ยช.ถึงชุดใหญ่

พรรครวมไทยสร้างชาติชูนโยบายกีฬา บอลไทยต้องไปบอลโลก ยช.ถึงชุดใหญ่

“บังมาด” นายสามารถ มะลูลีม ชูนโยบายกีฬา “พรรครวมไทยสร้างชาติ” เป้าหมายหลักพัฒนากีฬาของชาติให้ทัดเทียมระดับโลก วางแผนระยะยาวฟุตบอลไทยต้องไปฟุตบอลโลก ไล่ไปตั้งแต่ระดับเยาวชนไปจนถึงชุดใหญ่ พร้อมผลักดันให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวง “กีฬามวยไทยโลก” และสนับสนุนมวยไทยให้เป็น “ซอฟต์เพาเวอร์” ตั้งกรมสวัสดิการบุคลากรทางการกีฬา สนับสนุนกีฬาอาวุโสทุกชนิด และดูแลนักกีฬาคนพิการให้เทียบเท่านักกีฬาคนปกติ

“บังมาด” นายสามารถ มะลูลีม กรรมการบริหารพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า ตามที่ตนเองได้รับมอบหมายจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายด้านกีฬาของพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อร่างโครงสร้างใหม่กระทรวงกีฬา เพื่อคนกีฬา ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุม จำนวน 9 ท่าน ประกอบด้วย 1.พันเอก เฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวา 2.นายสามารถ มะลูลีม 3.ดร.ยงศักดิ์ ณ สงขลา 4.นายสุวิทย์ เลิศธนากุลวัฒน์ 5.พลเอก ธันวาคม ทิพยจันทร์ 6.นายอาคม สมุทรโคจร 7.นายโกวิทย์ ธารณา 8.ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล และ 9.นายพีระ จันทร เบื้องต้นได้ดำเนินการร่างนโยบายออกมาเรียบร้อยแล้ว

นายสามารถกล่าวว่า สำหรับนโยบายกีฬาของพรรครวมไทยสร้างชาติ 1.ตั้งกรมสวัสดิการนักกีฬาทีมชาติในกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรณีที่หน่วยงานภาคเอกชนบริจาคเงินช่วยเหลือก็จะมีมาตรการลดหย่อนภาษีให้ 2.สนับสนุนนักกีฬาให้เป็นนักกีฬาอาชีพ เช่น มวยไทย ฟุตบอล วอลเลย์บอล กอล์ฟ เป็นต้น 3.สนับสนุนนักกีฬาอาวุโสทุกชนิด เช่น ฟุตบอล ฟุตซอล เทนนิส จักรยาน รัฐบาลต้องให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ 4.ผลักดันให้กรุงเทพมหานครต้องเป็นเมืองหลวงของมวยไทยโลก 5.สนับสนุนให้มวยไทยเป็น “ซอฟต์เพาเวอร์” หน่วยงานของรัฐบาลเป็นองค์กรหลักในการส่งออกอุปกรณ์กีฬา และส่งเทรนเนอร์ไปสอนมวยไทยทั่วโลก โดยมีกระทรวงแรงงานเป็นผู้ดูแล ตามนโยบายของ “บิ๊กตู่” พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพรรครวมไทยสร้างชาติ “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ”

Advertisement

6.สนับสนุนกีฬาคนพิการในทีมชาติไทย รัฐบาลต้องปฏิบัติให้เหมือนนักกีฬาคนปกติ ซึ่งในอดีตนักกีฬาคนพิการต้องช่วยตัวเองเกือบทุกอย่าง ทั้งการหางบประมาณไปแข่งขันที่ต่างประเทศเพื่อเก็บคะแนนคัดเลือกไปพาราลิมปิกเกมส์ การเก็บตัวฝึกซ้อมในประเทศไทย และการจัดหาซื้ออุปกรณ์การแข่งขัน 7.รัฐบาลต้องมีนโยบายสนับสนุนฟุตบอลไทยให้ไปฟุตบอลโลกด้วยการวางแผนระยะยาว ต้องทำให้ทีมชาติไทยทุกชุดตั้งแต่เยาวชนอายุไม่เกิน 16 ปี, อายุไม่เกิน 18 ปี, อายุไม่เกิน 20 ปี ไปแข่งขันระดับฟุตบอลเยาวชนโลก แล้วทีมชาติไทยชุดใหญ่ถึงจะไปแข่งขันในฟุตบอลโลก หรือ “ฟีฟ่า เวิลด์คัพ” ได้,

8.ส่งเสริมการจัดกิจกรรมกีฬาเพื่อพัฒนาสังคมในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ในทุกมิติ ได้แก่ มิติทางด้านสุขภาพ ทางด้านความรักความสามัคคี ทางด้านความเป็นเลิศ ทางด้านอาชีพ การจัดกิจกรรมกีฬาเพื่อนำการท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้าน จะนำพามาซึ่งภาพลักษณ์ที่ดีให้เกิดในพื้นที่ จะตามมาด้วยเศรษฐกิจที่ดี ซึ่งจะทำให้เกิดความมั่นคงในพื้นที่ต่อไป 9.ต้องจัดตั้งศูนย์ฝึก “กีฬามวยไทย” ที่ดีมีมาตรฐานสูงที่สุดเพื่อเป็นศูนย์ฝึกมวยไทยที่พร้อมเป็นสถานที่สำหรับเป็นที่รองรับให้กับเยาวชนและประชาชนในพื้นที่ อีกทั้งเป็นการรองรับเยาวชน ประชาชน นักท่องเที่ยว นักกีฬามวยไทยในประเทศเพื่อนบ้านได้มาใช้บริการของศูนย์ฝึก “กีฬามวยไทย” ในประเทศไทย

นายสามารถกล่าวอีกว่า สำหรับโครงสร้างร่างกระทรวงการกีฬาใหม่มีหน่วยงานรับผิดชอบต่างๆ จำนวน 12 หน่วยงานดังนี้ 1.สำนักงานรัฐมนตรี 2.สำนักงานปลัดกระทรวง 3.การกีฬาแห่งประเทศไทย 4.กรมพลศึกษา 5.กรมสวัสดิการบุคลากรทางการกีฬา 6.มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ 7.กรมพัฒนากีฬาเพื่อความเป็นเลิศ 8.กรมเศรษฐกิจการกีฬา 9.กรมส่งเสริมกีฬามวลชน 10.กรมส่งเสริมกีฬาเยาวชน 11.ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ และ 11.ศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาแห่งชาติ

Advertisement

“นอกจากนี้ นโยบายของพรรคยังให้ตระหนักถึงความสำคัญในการใช้สารต้องห้ามในหมู่นักกีฬา ซึ่งปี 2556 ที่ผ่านมาประเทศไทยมีปัญหาถูกองค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก หรือ WADA (World anti-doping Agency) ลงโทษแบนห้ามใช้ธงชาติไทยในการส่งนักกีฬาเข้าแข่งขัน หรือจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ เนื่องจากทำกฎหมายในเมืองไทยบางข้อไม่สอดคล้องกับกฎระเบียบของ WADA ซึ่งเป็นความประมาทเลินเล่อที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น แต่โชคดีที่มีการสะสางแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที เหตุการณ์ก็จะนำมาเป็นกรณีศึกษาว่ารัฐบาลควรจะจัดตั้งศูนย์ต่อต้านการใช้สารต้องห้ามแห่งประเทศไทยขึ้นมาเป็นองค์กรอิสระอย่างถูกต้อง และได้มาตรฐานระดับโลก” นายสามารถกล่าวเสริม

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image