‘จักรทิพย์’ส่งจนท.ทีมชี้แจง ส.บอล ปมแฟน’เทโร’ทำร้ายเชิ้ตดำ-‘สมยศ’ปัดออกความเห็น หวั่นชี้นำ

จากเหตุการณ์หลังจบเกมฟุตบอล “โตโยต้า ไทยลีก 2017” คู่ระหว่าง “มังกรไฟ” โปลิศ เทโร เอฟซี พ่าย บางกอกกล๊าส เอฟซี 1-2 ที่สนามบุณยะจินดา ภายในสโมสรตำรวจ เมื่อ 14 พฤษภาคมที่ผานมา ซึ่งมีแฟนบอลเทโรเข้าทำร้ายผู้ตัดสินที่ 1 ฑีธิชัย นวลจันทร์ จนใบหน้าบวมแดง ก่อนเจ้าหน้าที่สนามสามารถรวบแฟนบอลต้องสงสัย 2 คนไว้ได้นั้น

“บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 15 พฤษภาคม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานสโมสรโปลิศ เทโร ได้ส่งเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลทีมมาชี้แจงเหตุการณ์กับสมาคมแล้ว ซึ่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ก็ไม่สบายใจ ขณะที่สมาคมต้องดูรายงานจากผู้ควบคุมการแข่งขันอย่างละเอียดเสียก่อน จึงจะพิจารณาต่อไป อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่า เป็นความรับผิดชอบของเจ้าบ้านที่จะต้องดูแลความปลอดภัย

“ผมก็ยังไม่ได้ดูเทปการตัดสิน ว่ามีอะไรหรือไม่ และจะพูดอะไรมากไปก่อนไม่ได้ เพราะจะเป็นการชี้นำ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แสดงว่าแฟนบอลไทยบางส่วนยังแพ้ไม่เป็น”

ส่วนบทลงโทษในกรณีนี้ว่าจะถึงระดับกรณีที่เคยมีผู้ทำร้ายกรรมการ สรพงษ์ ไกรเนตร หลังเกม ขอนแก่น ยูไนเต็ด พบ อ่างทอง เอฟซี ในเกมดิวิชั่น 1 เมื่อปีที่แล้ว และต่อมาสภากรรมการมีมติเพิกถอนสิทธิแข่งขันของ ขอนแก่น หรือไม่นั้น พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกัน กรณีล่าสุด เป็นเรื่องของแฟนบอล เข้าไปทำร้ายกรรมการเอง

Advertisement

“เสี่ยแมน” นายธัญญะ วงศ์นาค ผู้จัดการทีมเทโร เปิดเผยว่า ต้องขอโทษกับเหตุการณ์ ซึ่งปกติแล้วมีมาตรการป้องกันเข้มงวด แต่เหตุเกิดขึ้นหลังทีมเยือนเดินทางกลับแล้ว เจ้าหน้าที่จึงเอารั้วกั้นออก ทำให้มีแฟนบอลหลุดเข้าไปทำร้ายผู้ตัดสิน แต่สามารถจับตัวได้ทันที ซึ่งได้ดำเนินการทางกฎหมายไปแล้ว ซึ่งผู้ทำผิดยอมรับว่า เป็นอารมณ์ชั่ววูบจากการไม่พอใจคำติดสิน ซึ่งบทลงโทษจากสโมสรขั้นต่ำคงห้ามเข้าสนามจนจบฤดูกาลนี้ ขณะที่บทลงโทษจากสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ คงต้องรอคณะกรรมการพิจารณาต่อไป

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากหนึ่งในทีมผู้ตัดสินในเกมดังกล่าวว่า ช่วงที่เกิดเหตุ ผู้ตัดสินเดินไปขึ้นรถ 3 คน รวมทั้ง ฑีธิชัย จากนั้นมีกลุ่มคน 3 คน โดยมี 1 คน พุ่งเข้าไปทำร้าย นายฑีธิชัย ส่วนอีก 2 คน มาบล็อก 2 ผู้ตัดสินที่ไปด้วย จากนั้นก็สลายตัวไปเลย ทีมกรรมการได้พยายามเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาช่วย ต้องรอสักพักจึงจับมาได้ 2 คน แล้วให้กรรมการไปรอที่ห้องพักในสนามบุณยะจินดา

ส่วน รปภ.นำตัว 2 ผู้ต้องสงสัย ไปส่งให้ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง ก่อน ต่อมาจึงให้กลุ่มผู้ตัดสินไปชี้ตัว ซึ่งก็ไม่สามารถชี้ได้ เพราะตอนเกิดเรื่อง จำได้ว่า ผู้ก่อเรื่องใส่เสื้อสีแดงเป็นคนทำร้าย และมีคนเสื้อขาวอยู่ในกลุ่ม แต่เมื่อไปถึง สน.ทุ่งสองห้อง ผู้ต้องสงสัยกลับใส่เสื้อดำทั้ง 2 คน ทางผู้ตัดสินจำหน้าไม่ชัด จึงไม่กล้าชี้ตัว เนื่องจากกลัวเจอฟ้องกลับ ข้อหาแจ้งความเท็จ ทว่าเมื่อเดินทางออกมาจาก สน.ทุ่งสองห้องได้ไม่นาน ทางตำรวจโทรมาแจ้งว่า มีผู้ยอมรับว่ากระทำผิดแล้ว แล้วได้เปรียบเทียบปรับ ซึ่งเท่าที่ทราบคือ โทษจะน้อยลงกว่าการชี้ตัว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image