แอนดี้ เมอร์เรย์ มือ 1 โลกจากสกอตแลนด์ ให้สัมภาษณ์ทำนองว่าน่าจะทำผลงานได้ดีการเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ เทนนิสแกรนด์สแลมคอร์ตดินเฟร้นช์ โอเพ่น ในศึกสแลมที่ 3 ของปีอย่างคอร์ตหญ้าวิมเบิลดัน ซึ่งตัวเองเป็นแชมป์เก่า 2 สมัยช่วงต้นเดือนกรกฎาคม แม้ล่าสุดยังหาฟอร์มเก่งเหมือนปีก่อนไม่เจอ หลังตกแค่รอบแรกคอร์ตหญ้า “ควีนส์ คลับ แชมเปี้ยนชิพส์ 2017” ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน
เมอร์เรย์ที่เพิ่งฉลองวันเกิด 30 ปีเต็มได้เดือนเศษ และเคยระเบิดฟอร์มสุดยอดฤดูกาล 2016 ที่ผ่านมา ด้วยการคว้าแชมป์ได้ถึง 9 ครั้ง โดย 3 ครั้งในนั้นเป็นถึงแชมป์สแลมออสเตรเลียน โอเพ่น, แชมป์วิมเบิลดัน และป้องกันเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ ตามด้วยรองแชมป์อีก 4 ครั้ง และพลาดท่าตกรอบแรกกับรอบ 2 ที่ลงเล่นเพียง 4 ครั้ง จนมีส่วนทำให้แซงโนวัก โยโควิช จากเซอร์เบีย เป็นมือ 1 โลกช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน
แต่ปี 2017 คุณพ่อลูกหนึ่งรายนี้กลับทำผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน เมื่อได้แชมป์ครั้งเดียวจาก 8 รายการแรก และเป็นเพียงแชมป์เอทีพีเวิลด์ทัวร์ระดับ 500 คะแนน นอกนั้นหากไม่นับการได้รองแชมป์ และเข้าถึงรอบรองชนะเลิศอย่างละครั้ง เมอร์เรย์ตกรอบแรกกับรอบ 2 ที่ลงเล่นเท่าตลอดทั้งปี 2016 ที่ 4 ครั้ง ทั้งที่เพิ่งผ่านการแข่งได้แค่ครึ่งปี และตกรอบ 16 คนอีกครั้ง
แม้ล่าสุดเหมือนจะเริ่มคืนฟอร์มเก่ง หลังเข้าถึงรอบตัดเชือกเทนนิสสแลมเฟร้นช์ โอเพ่น ซึ่งตัวเองเป็นรองแชมป์เก่า แต่ 11 วันถัดมากลับตกรอบแรกที่ลงเล่นครั้งที่ 3 ของฤดูกาลในรายการควีนส์ คลับ แชมเปี้ยนชิพส์ ด้วยความพ่ายแพ้ต่อจอร์แดน ธอมป์สัน มือ 90 โลกจากออสเตรเลีย 6-7 (4), 2-6 ทั้งที่เป็นถึงแชมป์เก่า 2 ปีหลังสุด และแชมป์สูงสุด 5 สมัย
อย่างไรก็ตาม เมอร์เรย์ยืนยันว่ารู้สึกดีกว่าตอนก่อนแข่งเฟร้นช์ โอเพ่น และคิดว่าจะทำผลงานได้ดีกว่าเดิมอีกด้วย
ส่วนแร็กเกตดังอย่างสตานิสลาส วาวรินก้า มือ 3 โลก และเพิ่งเป็นรองแชมป์เฟร้นช์ โอเพ่นจากสวิตเซอร์แลนด์ รวมทั้งมิลอส ราโอนิช มือ 6 โลก และรองแชมป์เก่าจากแคนาดา ต่างก็แพ้พลิกล็อกในรอบแรกเช่นกัน เมื่อพ่ายเฟลิเซียโน่ โลเปซ มือ 32 โลกจากสเปน 6-7 (4), 5-7 และธานาซี ก็อกกินาคิส มือ 698 โลกจากออสเตรเลีย 6-7 (5), 6-7 (8) ตามลำดับ
