“บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยถึงการเดินทางเข้าพบ จานนี่ อินฟานติโน่ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ในวันที่ 5-7 กรกฎาคมนี้ เพื่อเสนอตัวให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในการจัดงานประชุม ประชุมฟีฟ่า คองเกรส 2019 โดยระบุว่า ได้มีโอกาสได้เข้าร่วมประชุมกับคณะโอลิมปิกแห่งประเทศไทย และได้กราบเรียน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ว่า วันที่ 29 พฤศจิกายน ได้รับเกียรติจากเอเอฟซี และได้รับคัดเลือกให้ประเทศไทย ให้เป็นเจ้าภาพจัดงาน เอเอฟซี แอนนวล อวอร์ด 2017 ซึ่งเป็นงานระดับโลก ในวันนั้นจะมีประเทศต่างๆ ทั่วเอเชียทั้งหมด 47 ประเทศ, ตัวแทนจากประเทศต่างๆ ในโลกและตัวแทนจากฟีฟ่า เข้าร่วมงาน และมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ประเทศไทย จะได้มีการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับประเทศไทย เป็นการโฆษณาให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งจะมีแขกจากต่างประเทศเข้ามาร่วมประชุม จำนวน 600-700 คน
“ในขณะเดียวกัน วันที่ 4 กรกฎาคมนี้ ผมจะเดินทางไปพบท่านประธานฟีฟ่า โดยจะไปนำเสนอให้ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพในการจัดงานประชุม ฟีฟ่า คองเกรส 2019 ถ้าเราได้รับเกียรติหรือได้รับการคัดเลือก จะเป็นการแสดงให้เห็นว่าประเทศไทย เป็นประเทศที่น่าสนใจ ทั้งขนบธรรมเนียมประเพณีไทย วัฒนธรรมไทย อาหารไทย สถานที่ท่องเที่ยว และที่สำคัญคือเราได้รับความไว้วางใจจากนานาประเทศ แสดงให้เห็นถึงความมั่นคงของประเทศไทย มีรัฐบาลที่คอยดูแลเรื่องความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัย”
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า วันนี้ประเทศไทยเป็นที่ยอมรับในระดับเอเชียแล้ว และถ้าเราได้รับการคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพในการจัดงานประชุม ประชุมฟีฟ่า คองเกรส 2019 อีก ถือว่าเราเป็นที่ยอมรับในระดับโลก ซึ่งมีสมาชิกทั้งหมด 211 ประเทศทั่วโลก จะมาเข้าร่วมประชุมที่ประเทศไทย ผู้เข้าร่วมประชุมรวมถึงผู้ติดตาม คาดว่าไม่ต่ำกว่า 1000-1500 คน นับเป็นการโปรโมทประเทศไทย รวมถึงการท่องเที่ยว เราสามารถบอกให้คนทั้งโลกรู้จักประเทศไทยของเรา
“ผมได้เรียนทั้งประธานเอเอฟซี ประธานเอเอฟเอฟ และประธานฟีฟ่า นะครับ ว่า ประเทศไทยมีความพร้อมในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นความมั่นคง ความสงบเรียบร้อย สถานที่พัก โรงแรม อาหาร แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นเสน่ห์ของประเทศไทย อุปนิสัยของคนไทยที่มีอัธยาศัยไมตรีที่ดี มีรอยยิ้มเป็นที่ประทับใจของชาวต่างชาติ ซึ่งเราพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น คอร์สการอบรมหรือการประชุมต่างๆ ทั้งการประชุมเอเอฟเอฟ หรือ เอเอฟซี ทุกๆ คนให้ความสนใจในประเทศไทย นี่คือการนำรายได้เข้าสู่ประเทศไทยอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นนโยบายของสมาคมฯ และมีความต้องการให้ประเทศไทยมีความเป็นสากล ได้รับการยอมรับจากอารยประเทศในเรื่องของการเป็นเจ้าภาพที่ดี ผมต้องการให้วงการฟุตบอลไทยเจริญก้าวหน้า นี่คือสิ่งที่ผมกำลังพยายามทำ”
สำหรับ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ พร้อมด้วย พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก เลขาธิการสมาคมฯ และนายพาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศฯ และโฆษก มีกำหนดการเดินทางร่วมประชุมกับประธานฟีฟ่า ณ สำนักงานใหญ่ฟีฟ่า นครซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ 5-7 กรกฎาคมนี้
