“บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เป็นประธานในงานแถลงข่าวความพร้อมการจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 45 และการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชึยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบคัดเลือก ที่โรงแรมอัลมีรอซ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม
ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 45 จะแข่งขันในวันที่ 14 และ 16 กรกฎาคมนี้ ที่ราชมังคลากีฬาสถาน โดยนัดแรกวันที่ 14 กรกฎาคม คู่แรกเวลา 16.00 น. เบลารุส พบ บูร์กินาฟาโซ และคู่ที่สอง เวลา 19.00 น. ไทย พบ เกาหลีเหนือ ส่วนรอบชิงชนะเลิศ วันที่ 16 กรกฎาคม ชิงอันดับ 3 เวลา 16.00 น. และชิงชนะเลิศ เวลา 19.00 น. ส่วนฟุตบอลชิงแชมป์เอเชึยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบคัดเลือก จะแข่งขันระหว่างวันที่ 19-23 กรกฎาคม ที่สนามศุภชลาศัย โดยไทยอยู่กลุ่มเอช ร่วมกับ มองโกเลีย, อินโดนีเซีย และมาเลเซีย
ก่อนการแถลงข่าวได้มีการประกาศรายชื่อนักเตะ 25 คนที่จะลงแข่งขันคิงส์คัพ ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู
กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์, กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล, สินทวีชัย หทัยรัตน์กุล, ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน / กองหลัง พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา, ธีรทร บุญมาทัน, นัสตพล มาลาพันธ์, อดิศร พรหมรักษ์, ทริสตอง โด, ฟิลิป โรลเลอร์, เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว, พุทธินันท์ วรรณศรี, พรรษา เหมวิบูลย์
กองกลาง บดินทร์ ผาลา, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, ปกเกล้า อนันต์, วัฒนา พลายนุ่ม, สรรวัชญ์ เดชมิตร, นูรูล ศรียานเก็ม, ชุติพนธ์ ทองแท้, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ / กองหน้า สิโรจน์ ฉัตรทอง, ธีรศิลป์ แดงดา, อดิศักดิ์ ไกรษร, มงคล ทศไกร
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ทางสมาคมได้มีการเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันในทุกๆ ด้านเป็นอย่างดี สำหรับคิงส์คัพนั้นมีความสำคัญมากเพราะเป็นถ้วยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ซึ่งมีประวัติศาสตร์ในการแข่งขันมาอย่างยาวนาน ทีมที่เลือกมาในการแข่งขันครั้งนี้เป็นทีมที่มีอันดับโลกสูงกว่าไทยแทบทั้งสิ้น แต่ก็ยังหวังว่าจะสามารถรักษาแชมป์เอาไว้ที่ประเทศไทยได้อีกหนึ่งสมัย ขณะที่ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ก็เป็นรายการสำคัญที่สมาคมฯ ตั้งเป้าหมายเข้าถึงรอบสุดท้ายที่ประเทศจีนในปีหน้าให้ได้ และเป็นการทดสอบนักเตะที่จะก้าวขึ้นมาเป็นชุดใหญ่ต่อไปด้วย
ด้านมิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชาวเซอร์เบีย กล่าวว่า คิงส์คัพนั้นถือว่าเป็นรายการที่สำคัญมากสำหรับคนไทย ซึ่งถึงแม้จะเป็นทัวร์นาเมนต์อุ่นเครื่อง แต่ก็จะเล่นกันอย่างจริงจังที่สุด และทำให้ดีที่สุด แผนการเล่นนั้นแน่นอนว่าอยากเปิดเกมรุก แต่ก็ต้องการขันเกมรับให้แน่นก่อน ค่อยปรับเกมรุกต่อไป เนื่องจากต้องการเล่นเพื่อผลการแข่งขัน ทัวร์นาเมนต์นี้จะพยายามเปิดเกมรุกให้มากที่สุดเพื่อเอาใจแฟนบอลที่มาชมในสนาม
“ส่วนรายชื่อที่ออกมานั้นไม่มีนักเตะที่อยู่ในชุดยู-23 เพราะมีรายการที่สำคัญกว่ารออยู่ ขณะที่ชนาธิป (สรงกระสินธ์) นั้นได้ทำหนังสือไปยังสโมสรคอนซาโดเล่ ซัปโปโรแล้ว แต่ทางสโมสรปฏิเสธกลับมาเพราะไม่ใช่ฟีฟ่าเดย์ ดังนั้นหวังว่าผู้เล่นที่เรียกมาจะไม่มีใครบาดเจ็บเพิ่มเติมและพร้อมลงสนามทั้งหมด ส่วนฟิลิปป์ โรลเลอร์ ที่มีชื่อครั้งแรกเนื่องจากเห็นว่ามีคาแรคเตอร์ที่ดี เลยอยากให้ลองมาเล่นดูว่าเข้ากับทีมได้หรือไม่ ถ้าทำได้ก็มีโอกาสติดทีมยาวเช่นกัน” ราเยวัช กล่าวปิดท้าย
ขณะที่ “มาดามเดียร์” นางวทันยา วงษ์โอภาษี ผู้จัดการทีมชาติไทยชุดยู-23 กล่าวว่า สำหรับการแข่งครั้งนี้ก็จะเริ่มเก็บตัววันที่ 10 กรกฎาคมนี้ ได้เรียกนักเตะไว้ 30 คน ก่อนจะตัดให้เหลือ 23 ก่อนการแข่งขัน ซึ่งเป้าหมายคือการเป็นอันดับ 1 ของกลุ่มให้ได้เพื่อคว้าโควต้าไปรอบสุดท้าย นอกจากนี้ในกลุ่มยังมีมาเลเซีย ซึ่งเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ก็หวังว่าถ้าชนะได้ก็จะเพิ่มลดความกดดันก่อนไปซีเกมส์ได้เช่นกัน
ส่วน “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ เฮดโค้ชทีมยู-23 กล่าวว่า ตอนนี้มั่นใจ 100 เปอร์เซนต์สำหรับการแข่งขัน ที่ผ่านมามีจุดบกพร่องก็ได้ปรับไว้แล้ว ส่วนคู่แข่งที่มานั้นไม่สำคัญเท่าตัวเอง เพราะว่าทีมชุดนี้ยังไม่เคยเล่นในบ้าน ยังไม่รู้ว่าจะกดดันแค่ไหน
“ส่วนซีเกมส์นั้นมองว่าไทยต้องอยู่ในกลุ่มที่เล่น 5 นัด คงเป็นงานที่หนักกับนักเตะที่มีเพียง 20 คนเท่านั้น ดังนั้นผู้เล่นทุกคนจะต้องพร้อมลงสนามได้ทั้งหมด เชื่อว่าถ้าไม่ประมาทก็จะสามารถคว้าแชมป์ได้แน่นอน”
