ปันจักสีลัตในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 29 เป็นอีกหนึ่งชนิดกีฬาที่ทัพนักกีฬาไทยโดน “เจ้าภาพ” มาเลเซีย เอาเปรียบจนทำให้พลาดเหรียญทองถึง 2 รุ่น ทำให้ไทยต้องประท้วงวุ่นแต่สุดท้ายไม่เป็นผล
โดยการแข่งขันวันสุดท้าย เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ปันจักสีลัตไทยผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ประเภทต่อสู้ 3 รุ่น ก่อนจะคว้ามาได้ 1 ทอง 2 เงิน โดยเหรียญทองได้จากรุ่นซี น้ำหนัก 60 กก. ชาย รอบชิงชนะเลิศ ซอบรี เจะนิ เอาชนะนักปันจักสีลัตทีมชาติเวียดนาม ขาดลอย 5-0 หลังครบ 3 ยกพร้อมกับคว้าเหรียญทองไปครอง
แต่อีก 2 รุ่นต่อมา นักปันจักสีลัตไทยเจอ “เจ้าภาพ” ทั้ง 2 รุ่น เริ่มจากรุ่นดี น้ำหนัก 65 กก.หญิง “หวาน” เรวดี คำศรี เจอนักกีฬาเจ้าภาพ ในรอบชิงชนะเลิศ โดยตลอด 3 ยกเรวดี เป็นฝ่ายเดินเข้าใส่ออกอาวุธจนนักกีฬาเจ้าถิ่นอ่อนแรงแต่แต้มไม่ขึ้น สุดท้ายครบ 3 ยกพ่ายไปอย่างน่าเกลียด 2-3 คะแนน
รุ่นที่มีปัญหามากที่สุดคือ รุ่นดี 65 กก.ชาย พรเทพ พูลแก้ว นักปันจักฯ ความหวังสูงสุดของทีมไทยจาก จ.สตูล ที่เจอกับคู่ปรับเก่านักกีฬาเจ้าภาพ ที่พรเทพ เคยเอาชนะมา 2 ครั้งรวดที่เคยเจอกันในเอเชี่ยนบีชเกมส์ ที่เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม และศึกชิงแชมป์โลกปีล่าสุด
ขณะยก 2 ทั้งคู่กำลังแลกเตะกันอยู่ พรเทพโดนกวาดล่างแต่ก็เตะสวนออกไปเข้าเต็มท้องนักกีฬาเจ้าถิ่นจนลุกไม่ขึ้น ต้องให้แพทย์สนามมาดูอาการโดยแพทย์ยืนยันว่าแข่งต่อไม่ได้ ทำให้กรรมการบนเวที สั่งปรับนักปันจักฯไทยแพ้ฟาวล์โดยระบุว่าทำผิดกติกาทำให้คู่แข่งบาดเจ็บ สร้างความไม่พอใจกับทีมปันจักสีลัตไทยที่โห่กันดังลั่น กระทั่งไทยยื่นประท้วงผลการตัดสิน โดยมีเจ้าหน้าที่ทีมปันจักสีลัตสิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ช่วยประท้วงให้ด้วยแต่สุดท้ายไม่เป็นผลจึงทำได้แค่คว้าเหรียญเงินไปครองเท่านั้น
นายนักรบ ทองแดง ผู้ช่วยผู้จัดการทีมปันจักสีลัตไทย เปิดเผยว่า เราโดนเจ้าภาพโกงไปแบบน่าเกลียด 2 รุ่น เราควรจะได้ 3 ทองประเภทต่อสู้ด้วยซ้ำ รุ่นของเรวดี เราเตะเท่าไหร่แต้มก็ไม่ขึ้น แต่ที่น่เกลียดสุดๆ คือ รุ่นของพรเทพ เพราะกติกาบอกว่า เมื่อคู่ต่อสู้ล้มลงสามารถเตะได้ 1 ครั้งอยู่แล้ว ซึ่งสิงคโปร์ กับอินโดนีเซีย ยังเห็นว่าเราทำถูกกติกา และยังช่วยไทยประท้วงเลย แต่เจ้าภาพไม่ฟังอะไรทั้งสิ้นยืนยันให้เราเป็นฝ่ายแพ้ไปจึงต้องยอมรับสภาพ
