นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรองประธานสหพันธ์เทนนิสแห่งเอเชีย (เอทีเอฟ) ในฐานะประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการจัดการแข่งขัน เป็นประธานในงานแถลงข่าวการแข่งขันเทนนิส “อินเตอร์คอนติเนนตัล เวิลด์ เทนนิส ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนชิพ 2017” ณ โรงภาพยนตร์ บางกอก แอร์เวย์ส บลู ริบบอน สกรีนส์ พารากอน ซินีเพล็กซ์ ชั้น 5 สยามพารากอน เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน
นายสุวัจน์กล่าวว่า เทนนิสรายการนี้ถือเป็นรายการใหญ่ที่จัดขึ้นมีเมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งที่ผ่านมาเราได้เห็นนักเทนนิสระดับโลกมาแข่งขันที่เมืองหัวหิน 7 ปีมาแล้ว โดยต่างเป็นมืออันดับ 1 ของโลกทั้งนั้น ซึ่งทำให้ทั่วโลกได้เห็นว่าประเทศไทยมีมาตรฐานในการจัดแข่งขันกีฬาระดับโลก และมีนักเทนนิสระดับโลกมากมายเดินทางมาร่วมชิงชัย
นายสุวัจน์กล่าวอีกว่า การแข่งขันที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นความสำเร็จในการพัฒนาวงการเทนนิสไทย และเป็นการใช้กีฬาเป็นสื่อในการประชาสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย ซึ่งทั่วโลกจะได้เห็นภาพนักหวดระดับโลกมาร่วมตักบาตรในช่วงปีใหม่ตามแบบวัฒนธรรมไทย ถือเป็นการนำกีฬามาช่วยกระตุ้นด้านการท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ สำหรับการแข่งขันปีนี้จะเป็นปีที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เพราะจะมีนักเทนนิสหญิงมืออันดับท็อป 10 ของโลก มาแข่งขันที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรก และทั้ง 4 คนก็ไม่เคยเดินทางมาแข่งขันที่เมืองหัวหินเลยอีกด้วย
สำหรับนักเทนนิสหญิงระดับโลกทั้ง 4 คนประกอบด้วย โจฮันน่า คอนต้า มืออันดับ 9 ของโลกจากสหราชอาณาจักร วัย 26 ปี, เยเลน่า ออสตาเพนโก้ ดาวรุ่งวัย 20 ปี มืออันดับ 7 ของโลกจากลัตเวีย เจ้าของแชมป์แกรนด์ สแลม รายการ เฟร้นช์ โอเพ่น 2017, แคริน่า พลิสโคว่า มืออันดับ 4 ของโลกจากเช็ก วัย 25 ปี และซิโมน่า ฮาเล็ป มืออันดับ 1 ของโลกจากโรมาเนีย วัย 26 ปี ซึ่งนับเป็นเกียรติอย่างมากที่นักหวดสาวระดับโลกทั้ง 4 คนมาร่วมแข่งขันครั้งประวัติศาสตร์ในครั้งนี้
นายสุวัจน์กล่าวเพิ่มเติมว่า การแข่งขันจะใช้ชื่อว่า “อินเตอร์คอนติเนนตัล เวิลด์ เทนนิส ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนชิพ 2017” โดยมีอินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเต็ลส์ กรุ๊ป เป็นผู้สนับสนุนหลักการแข่งขัน ขณะที่ช่วงเวลาแข่งขันจะแข่งช่วงปีใหม่ แต่ปีนี้เป็นปีแรกที่ขยับมาแข่งในช่วงเมอร์รี่คริสต์มาส ในวันที่ 23-24 ธันวาคม ที่ทรู อารีน่า หัวหิน ซึ่งเป็นสนามแข่งขันที่ได้มาตรฐานออกแบบมาจากระดับแกรนด์สแลม “ออสเตรเลี่ยน โอเพ่น” ส่วนรูปแบบการแข่งขันจะแข่งรอบรองชนะเลิศ วันที่ 23 ธันวาคม และรอบชิงชนะเลิศ รวมทั้งรอบชิงอันดับ 3 วันที่ 24 ธันวาคม คู่แรกเวลา 18.00 น. และคู่สองเวลา 20.00 น. พร้อมถ่ายทอดสดทางช่องทรู เทนนิส (ทรูวิชั่นส์ 670) และช่องทรูโฟร์ยู
“การแข่งขันปีนี้ถือเป็นปีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ และใช้งบประมาณจัดการแข่งขันค่อนข้างมาก ซึ่งต้องขอบคุณผู้สนับสนุนทุกท่านที่ช่วยยกระดับวงการเทนนิสไทย และสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนไทย โดยนอกจากที่นักเทนนิสระดับโลกทั้ง 4 คนจะร่วมกิจกรรมประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของประเทศไทยแล้ว ยังจะร่วมฉลองคริสต์มาสด้วย และหลังจากจบการแข่งขันทุกคนจะอยู่ต่อที่หัวหินอีก 5 วัน เพื่อเก็บตัวฝึกซ้อมเตรียมพร้อมไปแข่งขันต่อในศึกออสเตรเลี่ยน โอเพ่น ด้วย ซึ่งการแข่งขันที่หัวหินนี้ถือเป็นเรื่องแปลกที่นักเทนนิสที่มาแข่งที่หัวหินจะก้าวไปคว้าแชมป์ออสเตรเลี่ยน โอเพ่น ต่อไปอีกด้วย” นายสุวัจน์กล่าว
