เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ที่ห้องประชุม สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬา จ.ภูเก็ต สนามสุระกุล อ.เมืองภูเก็ต นายปิติพล นุกูลพานิชย์วิพัฒน์ ประธานสโมสรภูเก็ต เอฟซี พร้อมด้วย น.ส.ทิพย์สุนันทา กระจ่าง ที่ปรึกษาสโมสรภูเก็ต เอฟซี ร่วมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน กรณีมีกระแสข่าวว่าจะมีการยุบสโมสรภูเก็ต เอฟซี เนื่องจากไม่อาจจ่ายค่าปรับจากการที่มีนักเตะ 3 คนของภูเก็ต เอฟซี ร้องไปยังฟีฟ่าฯ กรณีถูกผู้บริหารชุดเก่า (เมื่อประมาณ 4 ปีที่ผ่านมา) ยกเลิกสัญญาอย่างไม่เป็นธรรม ทำให้ฟีฟ่ามีการสอบสวนและสั่งปรับเป็นเงินจำนวนกว่า 83 ล้านบาท
นายปิติพล ประธานสโมสรภูเก็ต เอฟซี กล่าวว่า ขอประกาศยุติการทำทีมของสโมสรภูเก็ต เอฟซี ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เนื่องด้วยสาเหตุที่ไม่คาดฝันมาก่อน โดยเมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมาได้รับเรื่องจากฟีฟ่า สำนักงานใหญ่ที่สวิตเซอร์แลนด์ แจ้งว่าเราถูกฟ้องร้องจากนักเตะ 3 ราย ซึ่งเป็นนักเตะของสโมสรภูเก็ต เอฟซี เมื่อ 4 ฤดูกาลที่แล้ว และปัจจุบันไม่ได้อยู่ภายใต้การบริหารของเรา ซึ่งเราเองก็ไม่ทราบว่านักเตะทั้ง 3 คนนั้นถูกออกจากสโมสรหรือทีมโดยไม่เป็นธรรม คือการยกเลิกสัญญานักเตะก่อนจะหมดสัญญา ซึ่งจำนวนเงินในการฟ้องร้องเป็นจำนวน 83 ล้านบาทไทย เป็นจำนวนที่สูงกว่าที่เราจะเดินไปต่อได้ จึงได้มีการหารือกันภายในรวมถึงแจ้งนักเตะและสต๊าฟโค้ชทุกท่าน ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ทุกคนเข้าใจดีว่าเราไม่สามารถเดินต่อไปได้ จึงต้องขอโทษทั้งนักกีฬา ทั้งชาวภูเก็ต และแฟนคลับภูเก็ต เอฟซี ทั่วโลก ทั้งคนไทยและต่างชาติที่เราไม่สามารถทำทีมต่อได้จริงๆ แต่ทั้งนี้ยังมีความหวังว่าจะมีโอกาสได้กลับมาเห็นทีมภูเก็ต เอฟซี ในเวอร์ชั่นใหม่กลับมาผงาดอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งอาจจะมีโอกาสที่จะกลับมาทำทีม แต่ยังไม่ใช่เร็วๆ นี้ และอาจจะยังสนับสนุนในทีมเล็กๆ เช่นฟุตบอล 7 คนระดับจังหวัดต่อไป
นายปิติพลกล่าวต่อว่า ช่วงที่ผ่านมาหลังเข้ามาบริหารของชุดล่าสุดในช่วง 6 เดือนแรกนั้น ยอมรับว่าไม่เป็นไปตามเป้าที่คาดไว้ แต่ถือว่าไม่สามารถทำอะไรได้มาก เพราะรับสิทธิต่อมาจากทีมบริหารชุดก่อน เพื่อช่วยรักษาทีมไว้ แต่ ณ วันนี้ ก่อนตัดสินใจยุบสโมสร ถือว่าได้มีการปรับเปลี่ยนนักเตะ สต๊าฟโค้ช และตัวโค้ช ให้เป็นไปในแนวทางที่ชาวภูเก็ตคาดหวัง และยังตั้งเป้าหมายที่จะเลื่อนชั้นมากขึ้น ซึ่งล่าสุดอยู่ในที 4 (ไทยลีก 4 โซนภาคใต้) แต่ได้อันดับ 2 โซนภาคใต้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ไม่สามารถทำตามฝันของชาวภูเก็ตได้ ซึ่งตนเองต้องกล่าวคำว่าขอโทษ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาหลังได้รับหนังสือจากฟีฟ่า ทางทีมบริหารชุดปัจจุบันก็ได้ประสานไปยังทีมบริหารชุดเก่า เพื่อแจ้งว่านี่คือปัญหาที่เกิดในยุคที่คุณบริหาร ก่อนจะมาถึงยุคที่เราบริหาร ซึ่งเราเองไม่ทราบปัญหา คุณต้องเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบกลับมาว่าจะดำเนินการอย่างไร จึงต้องตัดสินใจยุบเป็นทางออกที่ดีที่สุด
“ผมไม่อยากให้คนที่อยากมาทำทีมต่อหรือหวังดี โดนกระทำอย่างเช่นเรา เพราะรู้สึกเจ็บปวดมาก เพราะตั้งใจเข้ามาทำเพื่อจังหวัด แต่กลับโดนแบบนี้ ผมได้บอกไปว่าถ้าอยากเข้ามา ผมเองก็ยินดีด้วย เพราะอยากให้ทีมอยู่ต่อ แต่ก็ต้องบอกความจริงว่ามันมีปัญหาหนี้สินตรงนี้อยู่ จำนวนเท่านี้ถ้ารับไหวก็เข้ามาทำ”
