‘เดวิสคัพ’ วางตัวหลัก ‘คู่แฝด-จูเนียร์’ หวดศรีลังกา ‘บิ๊กเอ๋’ ลั่นบุกคว้าชัยแน่

 

ความเคลื่อนไหวทีมนักเทนนิสชายทีมชาติไทย ชุดเตรียมเข้าร่วมการแข่งขันเทนนิสชิงแชมป์โลก ประเภททีมชาย เดวิสคัพ” ประจำปี ค.ศ.2018 โซนเอเชีย/โอเชียเนีย กลุ่ม 2 รอบแรก พบ ศรีลังกา ที่กรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา ในช่วงระหว่างวันที่ 3-4  กุมภาพันธ์ พ.ศ.2561 นั้น

ล่าสุด บิ๊กเอ๋นายกิตตน์สมบัติ เอื้อมมงคล นายกสมาคมกีฬาเทนนิส ลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า จากการประชุมเตรียมทีมล่าสุดเป็นที่แน่นอนแล้วว่า ผู้การโจ๊กพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล จะยังทำหน้าที่ผู้จัดการทีมต่อไป ขณะที่กัปตันทีมเป็น โค้ชวิทร.อ.วิทยา สำเร็จ แต่จะรับตำแหน่งหรือไม่อย่างไร ค่อยว่ากันอีกที ส่วนตัวนักกีฬานั้น หลังช่วงเทศกาลปีใหม่จะเรียกทีมสต๊าฟโค้ชมาพูดคุยกันว่าจะใช้ผู้เล่นคนไหนบ้าง

เราจะเรียกทีมโค้ชเข้ามาประชุมหารือ และจะต้องมาดูกันว่าในช่วงแข่งขันเดวิสคัพนั้น นักกีฬามีติดอะไรกันบ้าง เพราะจะต้องวางแผนกัน นักกีฬาแต่ละคนที่มาจะต้องมีความพร้อม และสมัครใจอยากจะลงเล่นให้ทีมชาติ ซึ่งนักกีฬาที่สมาคมจะส่งไปแข่งขันครั้งนี้จะต้องเป็นชุดที่ดีที่สุด และสิ่งสำคัญในเดวิสคัพครั้งนี้จะแข่งขันกัน 2 ใน 3 เซต ไม่เหมือนที่ผ่านมาที่แข่ง 3 ใน 5 เซต เกมจะเร็วขึ้น และจะต้องระมัดระวังในการแข่งขันพอสมควรบิ๊กเอ๋ กล่าว

Advertisement

นายกลูกสักหลาดไทย กล่าวอีกว่า การแข่งขันปีนี้ กฎกติกาการแข่งขันมีการเปลี่ยนแปลงไปเยอะ ซึ่งจะต้องแจ้งและทำความเข้าใจกับนักกีฬาว่า เกมการแข่งขันจะยืดเยื้อไม่ได้ และจะต้องจบให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ สำหรับนักกีฬาเบื้องต้นในประเภทคู่ยังคงเป็น ต้นสนฉัตร และ ต้องสรรค์ชัย รติวัฒน์ คู่แฝดมือหนึ่งไทย ส่วนประเภทเดี่ยวนั้นตัวหลักจะยังเป็น จูเนียร์วิชยา ตรงเจริญชัยกุล นักหวดมือหนึ่งไทย ส่วนคนอื่นยังคิดว่าพอจะมีทางเลือกอีกพอสมควร 3-4 คน

หลังจากนี้ จะดูผลการแข่งขันในรายการอาชีพอีก 2-3 สัปดาห์ ซึ่งจะทำให้ทราบว่านักกีฬามีความฟิตมากน้อยแค่ไหน สำหรับคู่แข่งคือศรีลังกานั้น ถ้าดูตามฝีมือ ตามแร้งกิ้งแล้วเราเหนือกว่า และฝีมือเขาน่าจะสู้เราไม่ได้ จึงคิดว่าไม่น่ามีปัญหา รวมทั้งการไปเล่นพื้นเคลย์คอร์ตที่ศรีลังกาคิดว่า คงไม่น่าเป็นปัญหาอะไรมากมาย และเราน่าจะผ่านไปได้นายกเทนนิสไทยกล่าว

นายกิตตน์สมบัติ กล่าวในตอนท้ายว่า หากทีมนักหวดหนุ่มไทยผ่านรอบแรกไปได้จะเข้ารอบสองไปพบทีมชนะระหว่าง อินโดนีเซีย หรือ ฟิลิปปินส์ ที่จะแข่งขันวันที่ 7-8 เมษายน หากผ่านรอบสองไปได้จะเข้าไปเล่นรอบชิงชนะเลิศ เพื่อชิงโควต้าเลื่อนชั้นขึ้นกลุ่ม 1 แข่งขันวันที่ 15-16 กันยายน ส่วนเป้าหมายปีนี้มองไปถึงทะลุผ่านเข้ารอบชิงให้ได้ แม้จะเหนื่อยหน่อย เพราะทุกแมตช์เราต้องเป็นทีมเยือนทั้งหมด แต่ก็จะพยายามทำให้ได้ ส่วนผลแพ้ชนะก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image