“กว่างโซ้งมหาภัย” เชียงราย ยูไนเต็ด ดวลจุดโทษชนะ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 6-2 หลังเสมอกันในเวลาปกติ 2-2 ทำให้เชียงรายคว้าแชมป์ออมสิน ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ คัพ 2018 ที่สนามศุภชลาศัย เมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา โดยนัดต่อไปเชียงรายจะทำศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2018 รอบเพลย์ออฟ รอบสอง พบ บาหลี ยูไนเต็ด ทีมจากอินโดนีเซีย ที่สิงห์ สเตเดียม จ.เชียงราย วันที่ 23 มกราคมนั้น
อเล็กซานเดอร์ กาม่า กุนซือทีมเชียงรายเปิดเผยว่า ในศึกออมสิน ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ คัพ 2018 ถือเป็นเกมแรกของฤดูกาลที่ยากลำบาก ซึ่งทีมโดนนำก่อน 0-2 แต่ได้แสดงสปิริตจนกลับมาตีเสมอ และชนะจุดโทษได้ในที่สุด ส่วนการใช้เทคโนโลยีวีเออาร์ก็สร้างความเปลี่ยนแปลงในเกมได้มากพอสมควรเลย และเป็นมิติใหม่สำหรับวงการฟุตบอล
กุนซือชาวบราซิเลียนกล่าวอีกว่า สำหรับความพร้อมในการลงเตะศึกเอเอฟซีนั้น อันดับแรกจะต้องฟื้นฟูสภาพนักเตะให้สมบูรณ์ และพร้อมสำหรับการจะเจอกับบาหลี ยูไนเต็ด ซึ่งยังมั่นใจในครั้งนี้ว่าจะสามารถผ่านคู่แข่งไปได้ แต่ก็จะไม่ประมาท เช่นเดียวกับการแข่งขันไทยลีก ที่ถึงตอนนี้สามารถบอกได้เลยว่า เชียงรายจะเป็นอีกหนึ่งทีมที่ลุ้นแย่งแชมป์
ขณะที่โบซิดาร์ บันโดวิช กุนซือทีมบุรีรัมย์ กล่าวว่า เป็นเกมที่สนุกมาก สำหรับในครึ่งแรกทีมเราทำได้ดีมาก และน่าจะยิงได้มากกว่านี้ แต่โชคไม่ดีที่มาเสียประตูในช่วงท้ายเกมในครึ่งแรก เลยทำให้เชียงรายกลับมาได้ และยังมาเสียประตูตีเสมอในครึ่งหลังอีก ซึ่งเป็นประตูที่ไม่ควรจะเสีย แต่ในส่วนของรูปเกม คิดว่าลูกทีมทำได้ดีแล้วในเกมวันนี้ และยินดีกับเชียงรายที่ชนะในวันนี้
ผู้สื่อข่าวได้ถามถึ งจังหวะการใช้วีเออาร์ บันโดวิชกล่าวว่า มันเป็นเรื่องที่ดีมากสำหรับการใช้วีเออาร์ ในการทำให้การตัดสินในเหตุการณ์ที่ไม่ชัดเจน ทำให้ชัดเจนมากขึ้น แต่หวังว่าหลังจากเรามีเทคโนโลยีนี้ คงทำให้ผู้ตัดสินทุกคนพัฒนาการตัดสินได้ดีขึ้น
บันโดวิชกล่าวเพิ่มเติม เกมนี้เรามีเวลาเตรียมทีมแค่ 4 สัปดาห์ และสำหรับเป้าหมายในปีนี้เรายังคงต้องการเป็นแชมป์เหมือนเดิม ซึ่งจริงทีมเรายังไม่พร้อมเท่าที่ควร และก็เพิ่งมีนักเตะบางคนมาร่วมทีม แต่ตอนนี้ก็เริ่มลงตัวมากขึ้น เราจะพยายามทำผลงานให้ดีที่สุดในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนลีก
