ชาติชาย เชี่ยวน้อย หรือ “นริศ เชี่ยวน้อย” แชมเปี้ยนโลกชาวไทยคนที่สองในตำนาน ถึงแก่กรรมแล้วอย่างสงบด้วยอาการป่วยปอดติดเชื้อ สิ้นอายุขัยด้วยวัย 76 ปี ที่โรงพยาบาล นพรัตนราชธานี เขตคันนายาว กทม. เมื่อเย็นวันที่ 21 มกราคม
ชาติชาย ล้มป่วยไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้จากโรคพาร์กินสัน อันเป็นผลพวงมาจากการชกมวยยาวนานหลายสิบปี โดยอาการป่วยเริ่มทรุดหนักลงตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2555 ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลทั้งที่เชียงใหม่และกรุงเทพฯหลายครั้ง กระทั่งต้องย้ายบ้านกลับมาอยู่ที่บ้านอำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี
จากการเปิดเผยของลูกเขย อดีตแชมป์โลก 3 สมัย แจ้งว่า ชาติชายต้องถูกนำตัวกลับไปรักษาที่โรงพยาบาลนพรัตน์ฯมาแล้วหนึ่งสัปดาห์ หลังจากมีอาการเป็นไข้ และมีอาการปอดติดเชื้อ แพทย์จึงเปลี่ยนยาตัวใหม่ให้ แต่อาการไม่ดีขึ้นร่างกายรับยาไม่ไหวก่อนสิ้นลมอย่างสงบด้วยเวลา 18.18 น. เมื่อเย็นวันที่ 21 มกราคม
“ตอนนี้ผมกำลังเดินทางกลับจากเชียงใหม่ ได้รับข่าวจากทางบ้าน ตอนคุณพ่อสิ้นลมนั้น คุณแม่ (นางสิรินทร เชี่ยวน้อย) ยังอยู่ที่บ้านเพราะเตรียมจะไปผ่าตัดหัวเข่าจึงไม่ได้ไปเฝ้าไข้ จนกระทั่งได้รับแจ้งจากหมอที่โรงพยาบาลตอนนี้ ครอบครัวทุกคนเดินทางไปถึงกันหมดแล้ว แต่ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดอะไรได้ในตอนนี้ ว่าจะนำร่างของท่านไปทำพิธีทางศาสนาที่วัดไหน คงต้องรอวันพรุ่งนี้จึงจะสามารถบอกได้” ลูกเขยของชาติชายกล่าว
ขณะที่ “ป้าอู๊ด” นางสิรินทร เชี่ยวน้อย ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยาก ซึ่งเดินทางไปถึงโรงพยาบาลพบร่างสามีแล้ว แต่อยู่ระหว่างเศร้าโศกกล่าวเพียงสั้นๆว่า “ลุงไม่อยู่แล้วนะ เขาไปสบายแล้ว”
ชาติชาย เกิดเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2485 เป็นอดีตแชมเปี้ยนโลกชาวไทย 3 สมัยคนที่สองต่อจากโผน กิ่งเพชร คว้าแชมป์โลกครั้งแรกด้วยการชนะ ทีเคโอ วอลเตอร์ แม็กโกแวน เจ้าของตำแหน่งชาวอังกฤษ ในยก 9 ที่อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2509 เคยครองแชมป์ทั้ง “สมาคมมวยโลก (WBA) สภามวยโลก (WBC) และเดอะ ริงค์”
ชาติชายมีฉายาว่า “มาเซียโน่น้อยแห่งภาคตะวันออก” (หรือเอเชีย) เคยตระเวนชกมวยไปทั่วโลก จนเป็นที่กล่าวขานและยอมรับกันดีทั้งในสหรัฐอเมริกาและเม็กซิโก ผ่านการชกมวยอาชีพทั้งหมด 82 ครั้ง ชนะ 61 (น็อก 36) แพ้ 18 ครั้ง เสมอ 3 ถือเป็นแชมป์โลกชาวไทยที่ได้ใกล้ชิดใต้เบื้องพระยุคลบาท เคยได้เข้าเฝ้าในหลวง รัชกาลที่ 9 เป็นการส่วนพระองค์หลายครั้ง ชนิดที่ไม่เคยมีนักมวยคนใด ได้รับพระมหากรุณาธิคุณเยี่ยงนี้มาก่อน
