อนาคตของอันโตนิโอ คอนเต้ ผู้จัดการทีมเชลซีมีแนวโน้มว่าจะมั่นคงขึ้นหลังจากคุมทีมเปิดบ้านถล่มเวสต์บรอม ทีมบ๊วยของตาราง 3-0 เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
เกมนี้ เอเด็น อาซาร์ สตาร์ดังชาวเบลเยียม ทำ 2 ประตูในนาทีที่ 25 และ 71 ขณะที่วิคเตอร์ โมเสส บวกเพิ่มให้ในนาที 63 โดยอัลบาโร่ โมราต้า กองหน้าชาวสเปน กลับมาลงสนามให้เจ้าถิ่นได้อีกครั้งในฐานะตัวสำรองหลังจากมีปัญหาเจ็บหลังจนพักไปนาน
ขณะที่ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ กองหน้าลิเวอร์พูลที่เวสต์บรอมยืมตัวมาเล่นช่วงเปิดตลาดเดือนที่แล้ว เป็นตัวจริงนัดแรกให้ทีมใหม่ แต่เล่นไปได้แค่ 3 นาทีก็ต้องออกจากการแข่งขันเพราะปัญหาเจ็บกล้ามเนื้อหลังต้นขา
ชัยชนะนัดนี้ทำให้เชลซีมี 53 คะแนน จาก 27 นัด แซงท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ขึ้นไปอยู่อันดับ 4 ของตาราง มีแต้มตามหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 2 และ 3 เพียง 3 และ 1 แต้มตามลำดับ ขณะที่เวสต์บรอมยังมี 20 แต้มที่ก้นตาราง
ภายหลังการแข่งขัน คอนเต้กล่าวว่า ชัยชนะนัดนี้สำคัญมากๆ ในแง่ของการเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมา เนื่องจากเชลซีแพ้แบบเละเทะมา 2 นัดติดต่อกันทำให้เสียศูนย์ไปบ้าง คิดว่าการได้หยุดพักนานขึ้นช่วยชาร์จไฟให้นักเตะ แม้ช่วงต้นเกมจะดูยังเกร็งๆ กันอยู่บ้าง แต่พอได้ประตูขึ้นนำก็คุมเกมไว้ได้หมด หลังจากนี้จะพยายามเก็บชัยชนะในเกมเอฟเอคัพช่วงสุดสัปดาห์ เพื่อเตรียมตัวรับศึกหนักกับบาร์เซโลน่าในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกต่อไป
ส่วนเรื่องอนาคตการทำทีมเชลซีของตัวเองท่ามกลางข่าวลือหนาหูว่าเสี่ยงจะโดนปลดนั้น คอนเต้กล่าวว่า มีแต่เรื่องที่คาดเดากันไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้น ตนไม่ได้สนใจและคิดว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญในตอนนี้ สิ่งสำคัญคือการเก็บชัยชนะให้ได้เรื่อยๆ และโชว์ฟอร์มให้ดีเพื่อเป็นการตอบโต้การคาดเดาเหล่านั้น แต่คิดว่าลูกทีมชินแล้วและรับมือกับสถานการณ์เหล่านี้ได้ดี
