สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ประกาศแต่งตั้ง 3 หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย รุ่นไม่เกิน 16 ปี, รุ่นไม่เกิน 19 ปี และรุ่นไม่เกิน 21 ปี โดยมีชื่อ “โค้ชโย่ง” นายวรวุธ ศรีมะฆะ ถูกแต่งตั้งให้กลับมาทำหน้าที่คุมทีมชาติไทย รุ่นไม่เกิน 21 ปีอีกครั้งนั้น
ล่าสุด “โค้ชโย่ง” นายวรวุธเปิดเผยว่า การรับตำแหน่งต้องทำให้เต็มที่ที่สุด และต้องทำผลงานให้ดีกว่าที่ผ่านมา ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีความกดดันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว โดยการวางแผนหลังจากนี้ก็จะพยายามเก็บตัวในช่วงฟีฟ่าเดย์ แต่ปัญหาของทีมชุดนี้ก็คงไม่ต่างจากชุดก่อนที่อาจจะไม่ใช่ตัวหลักของสโมสร ซึ่งในช่วงแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ 2018 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ช่วงเดือนสิงหาคม นักเตะตัวหลักอาจไม่ถูกปล่อยตัวมากก็อาจจะต้องใช้ผู้เล่นชุดสอง หรือชุดสามแทน
“เป้าหมายระยะสั้นคือ เอเชียนเกมส์ คราวก่อนเราจบอันดับ 4 เป้าหมายก็ต้องเท่าเดิมเป็นอย่างน้อย เรารู้ว่าเป็นงานยาก เพราะหลายประเทศอาจจะส่งชุดยู 21 เหมือนกับเรา แต่บางประเทศเขาจัดชุดเต็มผู้เล่นยู 23 และบวกนักเตะอายุเกิน 3 คน แต่เราต้องพยายามแสดงว่าเรามีพัฒนาการ ขณะที่ระยะกลางอยากสร้างให้เด็กชุดนี้ไปโอลิมปิกคือ หาตัวหลักได้ชัดเจนว่ามีใครบ้าง ส่วนระยะยาวเราต้องเข้าใกล้ให้ได้มากที่สุดคือการได้ไปรอบสุดท้ายของชิงแชมป์เอเชีย” โค้ชโย่งกล่าว
โค้ชโย่งกล่าวอีกว่า หลังจากเรียนโปรไลเซนส์เราก็ต้องพัฒนาตามแนวทางของ “โค้ชเฮง” นายวิทยา เลาหกุล ประธานพัฒนาเทคนิคทีมชาติไทย ซึ่งต้องพยายามปรับทัศนคติในการเล่นทีมชาติ ความรวดเร็ว แข็งแกร่ง ความเป็นมืออาชีพ และความรักชาติ ตรงนี้ต้องปลูกฝังในตัวเด็กทุกคน ทำให้การทำทีมมีมิติเพิ่มขึ้น
“ผมต้องยอมรับคำติชมทุกๆ อย่าง การจะแก้ไขได้ เราต้องลงมือทำ หากผมมัวแต่ตอบโต้ทุกคำวิจารณ์มันคงไม่มีประโยชน์ ซึ่งเราน้อมรับทุกคำวิจารณ์อยู่แล้ว เรามาในนามทีมชาติ ผมก็พยายามจะรับและพัฒนาให้ไปถึงจุดที่แฟนบอลทุกคนต้องการให้ได้ครับ” โค้ชโย่งกล่าวทิ้งท้าย
