พลันที่มีการวางระบบ “จัดสรรปันส่วนผสม” ภายในโครงสร้างการ เลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560
น้ำหนักทางการเมืองก็แปรเปลี่ยน
แปรเปลี่ยนทำให้ “กลุ่มวาดะห์” แห่ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เนื้อหอมขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
ยิ่งเมื่อประสาน 2 ส่วนเข้าเป็นเนื้อเดียว
1 คือ เครดิตเดิมของ “กลุ่มวาดะห์” อันมี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นผู้นำ
1 คือ บทบาท พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง
ยิ่งทำให้การขยับขับเคลื่อนของ “กลุ่มวาดะห์” ได้รับความสนใจเป็นอย่างสูง
โดยมีผลสะเทือน “ประชามติ” เป็นดรรชนี ชี้วัด
ต้องยอมรับการลงประชามติจะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญเมื่อ เดือนสิงหาคม 2559 นั้นสะท้อนนัยสำคัญทางการเมือง
จำนวน 10 ล้านกว่าเสียงที่ไม่ยอมรับ
ด้านหลักอาจมาจากหลายจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียง เหนือ และอาจมาจากหลายจังหวัดในภาคเหนือ
อันเป็นฐานเสียงอย่างสำคัญของพรรคเพื่อไทย
แต่คะแนนที่หนักแน่นและมั่นคงเป็นอย่างมากกลับเป็นคะแนนที่ไม่รับร่างจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
เป็นร้อยละ 60 จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด
เท่ากับว่าประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปฏิเสธร่างรัฐธรรมนูญฉบับ คสช.
คะแนนตรงนี้แหละคือพลานุภาพทางการเมือง
ประเมินกันว่า หากนำเอาเครดิตของ “กลุ่มวาดะห์” ประสานเข้ากับความสำเร็จในห้วงเป็นเลขาธิการ ศอ.บต.จะทำให้คะแนนของกลุ่มหรือพรรคการเมืองนี้ได้รับเลือกอย่างเป็นชิ้นเป็นอัน
ตรงนี้แหละที่ทำให้ “กลุ่มวาดะห์” หอมกรุ่นขึ้นมา
ท่าทีของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เด่นชัดว่าพร้อมสนับสนุนทุกพรรคการเมืองที่มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ท่าทีของ “กลุ่มวาดะห์” น่าจะไม่เป็นส่วนหนึ่งในพรรคเพื่อไทย แต่อาจแยกตัวออกมาแต่ก็แยกตัวอย่างเป็นพันธมิตร
เป็นพันธมิตรเจาะพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
