นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากที่สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลฯ ได้รับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน 2018 เอฟไอวีบี บีช วอลเลย์บอล เวิล์ดทัวร์ “เอสเอ็มเอ็ม” ปากบารา บีช สตูล ไทยแลนด์ ที่ได้รับการยกระดับให้เป็นเวิล์ดทัวร์ มีร่วมแข่งขัน 23 ประเทศ วันที่ 8-11 เมษายน ที่ จ.สตูล และรายการ เอสเอ็มเอ็ม เอวีซี บีช ทัวร์, เอส โคล่า สมิหลา โอเพ่น ครั้งที่ 19 จะแข่งขันวันที่ 14-17 เมษายน มีทีมร่วมชิงชัย 16 ประเทศ ที่ จ.สงขลา เพื่อเป็นไปตามแผนที่จะพัฒนานักกีฬาวอลเลย์บอลชายหาดของไทยรวมถึงในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะนักตบไทยทั้งรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่จะได้เพิ่มประสบการณ์กับการแข่งขันแมตช์ใหญ่ๆ เพิ่มขึ้นด้วย
สำหรับการแข่งขันครั้งนี้ก็ถือเป็นการเปิดโอกาสให้นักตบชายหาดไทยได้มีโอกาสแข่งขันกับนักกีฬาระดับโลก และจะได้ดูศักยภาพของนักกีฬารุ่นใหม่ๆด้วย โดยในส่วนของทีมชาติชุดหลักอย่าง “เอ-ส้ม” วรภัสสร รดารงค์ กับ ธนะรัศมิ์ฐา อุดมฉวี และคู่ของ “เฟิร์น-โบ้ท” รำไพพฤทธิ์ นุ่มวงศ์ กับ ขนิษฐา หงส์พักตร์ ก็ยังต้องทำผลงานเพื่อเก็บแต้มสะสมในรายการเวิลด์ทัวร์ เพื่อปูทางไปสู่ศึกโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ญี่ปุ่น
ส่วนในรุ่นเยาวชนใหม่ก็ต้องการให้ได้ลงแข่งขันอย่างต่อเนื่อง เพราะเราต้องวางแผนในระยะยาวเพื่อสร้างรุ่นใหม่ขึ้นมาทดแทนรุ่นพี่ในอนาคต อย่าง “เอ-ส้ม” ก็ถือว่ามีอายุมากขึ้นแล้ว ก็คงได้ลุ้นในโอลิมปิกเกมส์ที่จะถึงนี้ และอาจประคองต่อไปอีกระยะหนึ่งก่อนที่อาจจะผันตัวไปเป็นผู้ฝึกสอน เราจึงจำเป็นต้องดันรุ่นเยาวชนให้แข็งแกร่งขึ้นมาต่อไป
ด้าน “โค้ชเพชร” เพชรราช พุฒซ้อน ผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอลชายหาดหญิงทีมชาติไทย เปิดเผยว่า ตอนนี้พยายามให้ทีมไทย 2 “เฟิร์น-โบ้ท” รำไพพฤทธิ์ นุ่มวงศ์ กับ ขนิษฐา หงส์พักตร์ ได้เดินสายแข่งขันเพื่อเพิ่มประสบการณ์อย่างต่อเนื่อง และก็ได้เตรียมทีมเยาวชนไว้เช่นกัน โดยตอนนี้มี ยศภัทร ปาคำ ที่สูงถึง 192 ซม. ก็จะเป็นตัวสอดแทรกที่ทำให้ทีมชาติไทยมีศักยภาพที่สูงขึ้น
ทั้งยังมี พรสุดา กฤษณา, จันทิรา ขวานอก ที่น่าจะเป็นกำลังหลักในเกมรับได้ในอนาคต นอกจากนี้ยังมีเตรียมนักตบเยาวชนไว้อีกหลายทีม ส่วนทีมรุ่น 19 ปี “เตย” ภวรัญชน์ จันทวิชัย กับ “แต้” ทัศริดา สิงห์เชื้อ ที่เพิ่งคว้าแชมป์ในรุ่นอายุต่ำกว่า 19 ปี ชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย และได้ไปสู้ศึกชิงแชมป์โลก รุ่น 19 ปี ก็น่าจะเป็นกำลังในทีมชาติได้ แต่ก็ยังติดที่ว่า “เตย-แต้” รูปร่างยังไม่สูงเท่าไหร่นัก เมื่อเจอกับคู่แข่งระดับที่สูงขึ้นอาจจะมีปัญหาจึงต้องพัฒนาด้านเทคนิคให้มากขึ้นไปยิ่งกว่านี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ในส่วนของทีมชุดใหญ่ “เอ-ส้ม” และ “เฟิร์น-โบ้ท” ก็ยังเตรียมตัวสู้ศึกเอเชี่ยนเกมส์ 2018 ที่อินโดนีเซีย และจะเน้นส่งแข่งขันในระดับ 3 ดาว 4 ดาว 5 ดาว ให้มากขึ้น และต้องเน้นเรื่องทำอันดับเข้ารอบให้ลึกที่สุด เพื่อโอกาสที่จะไปสู้ศึกโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ที่ตั้งเป้าหมายไว้ให้ได้ก่อน
