ความเคลื่อนไหวทีมมวยสากลยุวชน-เยาวชนทีมชาติไทย เพื่อเข้าร่วมแข่งขันมวยสากล”ASBC Asian Youth Confederation Boxing Championship2018″ ระหว่างวันที่21-27 เมษายน ที่อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก
ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 เมษายน เป็นการแข่งขันรอบรองชิงชนะเลิศ มีนักชกชาย ขึ้นชก 5 รุ่น รุ่นไลต์ฟลายเวต(รุ่น 49 กก.) ธิติสรรณ์ ปั้นโหมด พบ มากห์มุด ซาเบียข่าน(คาซัคสถาน) ผลปรากฎว่า ธิติสรรณ์ ทำได้ดีในยกแรก แต่ว่านักชกคาซัคสถานแข็งแกร่งและแข็งแรงเป็นฝ่ายชนะคะแนน3-2ทำให้ธิติสรรณ์ ได้แค่เหรียญเงิน
รุ่น48 กก.หญิง นิลดา มีคุณ หรือชื่อมวยไทย “เพชรจีจ้า อ.มีคุณ” พบ นิตู นักชกอินเดีย ปรากฎว่า นิลดา ชกได้ไม่ดีเหมือนรอบก่อนหน้านี้ ทำให้แพ้คะแนนขาดลอย 0-5 เสียง ได้เหรียญเงินอีกราย
ขณะที่รุ่นฟลายเวต( 52 กก.) สราวุธ สุขเทศ พบ ซามาดาร์ เคอรโมโรดอฟ นักชกอุซเบกิสถาน ปรากฎว่าสราวุธต่อยจังหวะสองเข้าเป้านักชกอุซเบฯหลายครั้ง ทำคะแนนได้จะแจ้ง ก่อนเป็นฝ่ายชนะคะแนน 4-1 เสียง ซิวเหรียญทองพร้อมสร้างประวัติศาสตร์ คว้าโควต้าไปแข่งยูธโอลิมปิกเกมส์ รอบสุดท้าย ที่อาร์เจนติน่า ให้ทัพกำปั้นไทยเป็นครั้งแรก
หลังการชก สราวุธ เผยว่า ดีใจที่ชนะได้ ที่สำคัญภูมิใจที่สร้างประวัติศาสตร์ให้ทีมมวยสากลทีมชาติไทยได้ไปแข่งโอลิมปิกเกมส์รอบสุดท้าย
รุ่นไลต์เวท (60กก.) อธิชัย เพิ่มทรัพย์ พบกับ อันกิต นักชกอินเดีย ยกแรกอธิชัยใช้จังหวะฝีมือ ชิงออกอาวุธได้เข้าเป้า เล่นเอานักชกอินเดียถอยไปตั้งรับ เช่นเดียวกับยกสองและยกสามนักชกไทยออกหมัดได้เร็วและโชว์สายตาหลบหมัดของนักชกอินเดียที่เร่งช่วงท้ายยกสุดท้าย ครบ 3 ยก อธิชัย ชนะคะแนน 3-2 เสียงคว้าเหรียญทองอีกรายพร้อมได้สิทธิ์ไปต่อยยูธ โอลิมปิกเกมส์ รอบสุดท้าย
อธิชัย เปิดเผยว่า ดีใจที่คว้าตั๋วไปยูธโอลิมปิกสำเร็จขอมอบแชมป์ให้กับคนไทยทุกคนที่ติดตามเชียร์
รุ่น 60 กก.ห ญิง พรทิพย์ บัวป่า พบ มิยูน โจ นักชกเกาหลีใต้ผบปรากฎว่าพรทิพย์ใช้ชั้นเชิงที่เหนือกว่าไล่ต้อนนักชกโสมขาวชนิดมวยคนละชั้น ครบ 3 ยก พรทิพย์ชนะคะแนน 5-0 คว้าเหรียญทองพร้อมทำประวัติศาสตร์เป็นนักมวยหญิงคนแรกที่ได้สิทธิ์ไปแข่งยูธโอลิมปิคเกมส์รอบสุดท้ายที่อาร์เจนติน่า ปลายปีนี้
ด้านพรทิพย์ เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจมากที่ทำได้ ตั้งใจจะเอาเหรีญทองโอลิมปิคกลับมาให้ได้ ส่วนตัวต้องปรับปรุงเรื่องการป้องกันตัวที่ยังทำได้ไม่ดี หากทำได้รับรองมีลุ้นแน่นอน
รุ่นเวลเตอร์เวท (69กก.) พีระภัทร เยียะสูงเนิน พบ เยอร์มาข่าน ซัคเปตรอฟ (นักชกคาซัคสถาน) ยกแรกพีระภัทรออกหมัดได้เข้าเป้า แต่ว่าแผ่วยกสอง และ สาม ทำให้นักชกอุซเบกิสถานไล่อัดเข้าเป้าหลายชุด ครบ 3 ยก พีระภัทรแพ้คะแนนฉิวเฉียด 2-3 เสียงได้แค่เหรียญเงิน
รุ่นมิดเดิ้ลเวต(75กก.) วีระพล จงจอหอ หลานชาย สมจิตร จงจอหอ ฮโร่เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ ปี2008 พบ เนอร์เบ็ค โอรัลเบย์(คาซัคสถาน) ผลปรากฎว่าแลกหมัดกันสนุก ช่วง 2 ยกแรกสูสี เข้าสู่ยกสุดท้ายวีระพล ออกหมัดได้เข้าเป้า ทำคะแนนจะแจ้ง ก่อนชนะคะแนน 4-1 เสียง คว้าเหรียญทองให้ทีมกำปั้นไทยเป็นเหรียญที่ 4 พร้อมคว้าสิทธิ์ไปลุยยูธโอลิมปิกเกมส์ รอบสุดท้าย
หลังการชก วีระพล กล่าวว่าตื่นเต้นที่ทำสำเร็จ ก่อนถึงยูธอลป.รอบสุดท้ายเดือนตุลาคมมีเวลาเตรียมตัวและปรับปรุงข้อผิดพลาด ตั้งใจจะคว้าหรียญทองให้เหมือนอาให้ได้
ขณะที่ สมจิตร จงจอหอ ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2008 ที่ปักกิ่ง เข้ามาเชียร์หลานชายถึงขอบสนาม เผยว่า นักชกเยาวชนไทยชุดนี้มีการพัฒนาอย่างมาก แต่ที่สำคัญคือต้องมีระเบียบวินัยถึงจะประสบผลสำเร็จ สำหรับวีระพลส่วนตัวมองว่ายังต้องปรับปรุงเรื่องการออกหมัดให้เข้าเป้า แต่อายุยังน้อย เชื่ว่าจะพัฒนาได้อีก
ขณะที่ นายพิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า พอใจผลงานที่ทำได้เกินเป้าหมายคว้าโควต้า 4 ที่นั่งสำหรับยูธโอลิมปิกเกมส์และเป็นประวัติศาสตร์ของสมาคมมวยสากลเพราะยูธโอลิมปิกเกมส์ 2 ครั้งที่ผ่านมายังไม่เคยได้โควต้าไปแข่งรอบสุดท้าย
“ยินดีกับนักชกทุกคนและแฟนมวยชาวไทยด้วย สมาคมทำงานหนักเพื่อวันนี้ นักชกเด็กเหล่านี้สร้างมา3ปีกว่าเพื่อวันนี้แล้วเราก็ทำได้ ต่อจากนี้ ต้องมีมวยเยาวชนเพิ่มขึ้นทั้งรุ่น15-16ปี จะได้มีตัวเลือกมากขึ้นอีก เชื่อว่านักมวยไทยจะทำผลงานได้ดีทั้งเวิล์ดแชมเปี้ยนชิพ และ ยูธอลป.เกมส์รอบสุดท้าย
ด้าน ฮวน ฟอนตาเนียล หัวหน้าสต๊าฟโค้ชทีมมวยหญิงทีมชาติไทย กล่าวว่า ดีใจมากที่มวยหญิงสามารถคว้าโควต้าไปแข่งยูธโอลิมปิคเกมส์ได้สำเร็จตามเป้าหมายของสมาคม
“เรามีเวลาเก็บตัวฝึกซ้อมไม่นาน แต่ทำได้ ต้องขอชมนักมวยทุกคนที่ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม เวลาที่เหลืออีกหลาายเดือน ต้องซ้อมให้เข้มข้นและออกไปแข่งต่างประเทศเพื่อหาประสบการณ์เชื่อว่า เรื่องหัวใจนักมวยไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกน่าจะทำผลงานได้ดีในยูธโอลิมปิคเกมส์”
สรุปผลงานนักกีฬาไทยได้ 4 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน และ 4 ทองแดง
