หลังจากที่สโมสรรีล มาดริด แต่งตั้งยูเลน โลเปเตกี โค้ชทีมชาติสเปนเป็นกุนซือคนใหม่แทนที่ ซีเนอดีน ซีดาน ด้วยสัญญาระยะเวลา 3 ปี โดยจะเข้ามารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการหลังเสร็จภารกิจจากการนำทีมชาติสเปนลงทำศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย ระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน-15 กรกฎาคมนี้
แต่จากการแต่งตั้งเข้าคุมทีมรีล มาดริดของ โลเปเตกี ทำให้มีการพูดถึงเป็นวงกว้าง รวมทั้ง หลุยส์ รูเบียเลส ประธานราชสหพันธ์ฟุตบอลสเปน ที่รู้สึกไม่พอใจในตัวของกุนซือชาวสเปนรายนี้ เนื่องจากโลเปเตกี เพิ่งจะขยายสัญญาคุมทีมชาติไปจนจบการแข่งขันฟุตบอล ยูโร 2020
อีกทั้ง “มาร์ก้า” หนังสือพิมพ์ชื่อดังของแดนกระทิงดุยังรายงานว่า สหพันธ์ฟุตบอลสเปน อาจกำลังพิจารณาที่จะไล่โลเปเตกี ออกจากตำแหน่ง แม้จะเหลือเวลาเพียงไม่กี่วันก่อนฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายจะเริ่มขึ้นก็ตาม
รูเบียเลสกล่าวว่า มันไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะพูดถึงเรื่องนี้ แต่พวกตนจะทำให้ดีที่สุดเพื่อทีมกระทิงดุ โดยจะตัดสินใจอย่างมีความรับผิดชอบ
สำหรับ ยูเลน โลเปเตกี กุนซือวัย 51 ปี เคยเป็นอดีตผู้รักษาประตูมาก่อน และเคยร่วมทีมมาดริด ระหว่างปี 1988-1991 แต่ได้เฝ้าเสาให้ทีมชุดใหญ่แค่ 1 นัดเท่านั้น ก่อนจะย้ายมาเล่นให้โลโกรนเยส ระหว่างปี 1991-1994 โดยได้เฝ้าเสาให้ทีมถึง 107 นัด
โลเปเตกี เริ่มอาชีพโค้ชครั้งแรกในปี 2003 ด้วยการเป็นผู้ช่วยโค้ชทีมชาติสเปนชุดอายุไม่เกิน 17 ปี (ยู-17) ก่อนจะมาเป็นเฮดโค้ชทีมสเปนชุดยู-19, ยู-20 และยู-21 จากนั้นไปคุมสโมสรปอร์โต้ในโปรตุเกสอยู่ 2 ปี ก่อนจะได้รับแต่งตั้งให้เป็นกุนซือทีมชาติสเปนชุดใหญ่ในปี 2016
การมาของโลเปเตกี จะถือเป็นการตัดสินอนาคตของเหล่าสตาร์ดังในทีมด้วย รวมถึงแกเร็ธ เบล ปีกทีมชาติเวลส์ที่เป็นฮีโร่ผู้พามาดริดคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 3 สมัยซ้อน ซึ่งเคยบอกไว้ว่าจะตัดสินใจว่าจะอยู่หรือไปหลังจากทีมได้กุนซือคนใหม่แล้ว
ขณะที่คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แข้งซูเปอร์สตาร์กัปตันทีมชาติโปรตุเกส ก็เคยเผยหลังจากจบศึกแชมเปี้ยนส์ลีกเช่นกันว่าจะประกาศให้แฟนๆ ได้ทราบเกี่ยวกับอนาคตของตัวเองหลังได้กุนซือคนใหม่
