“เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี่” นักชกไทยวัย 25 ปี เจ้าของเข็มขัดแชมป์มวยไทยเวทีลุมพินี 2 รุ่นและแชมป์รายการดับเบิลยูเอ็มซีมวยไทย สร้างความฮือฮาไปทั่วโลก เมื่อโชว์ไหวพริบแก้เกมจัดการสยบยอดฝีมืออย่าง “จิออร์จิโอ เปโตรเซียน” ยอดนักชกชาวอิตาลีเชื้อสายอาร์มีเนีย ตัวเต็งแชมป์ครั้งนี้ ในศึกวัน ซุปเปอร์ ซีรีส์ คิกบ็อกซิ่ง เวิร์ลด์ กรังด์ ปรีซ์ รุ่นเฟเธอร์เวต รอบ 8 คนสุดท้าย ที่สิงคโปร์ อินดอร์ สเตเดียม ประเทศสิงคโปร์ เมื่อช่วงดึกวันที่ 17 พฤษภาคม ขณะที่ “ยอดแสนไกล ไอเว แฟร์เท็กซ์” พลาดท่าปราชัยแบบผิดคาด
ไฟต์นี้เพชรมรกต ที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นรอง ออกมาสู้ได้อย่างเร้าใจประเคนลูกเข่าทีเด็ดเล่นงานใส่ลำตัวของ เปโตรเซียน ทำเอานักชกอิตาลีถึงกับออกอาการ สลับกับแลกหมัดสู้ ผลัดกันโดน ซึ่งหลังต่อสู้ครบ 3 ยก ผู้ตัดสินชูมือให้ เพชรมรกต ชนะคะแนนแบบเฉียวฉิว 2-1 เสียง (คลิกชมคลิปไฮไลต์ – เพชรมรกต)
โดยเพชรมรกต เข้ารอบตัดเชือกไปทำศึกสายเลือดกับ “สโมกิ้น” โจ ณัฐวุฒิ นักชกวัย 29 ปี อีกหนึ่งกำปั้นชาวไทยจากเมืองย่าโม ดีกรีแชมป์รายการ ไลออนไฟต์ 2 รุ่น โชว์ฟอร์มสุดดุดัน เดินหน้าประเคนแข้งตะบันหมัดอัด ซาช่า โมอิซ่า คู่ชกชาวยูเครนร่วงลงไปกองกับพื้นถึง 2 ครั้ง ก่อนรัวพายุหมัด จนกรรมการต้องยุติการชกและชูมือให้ โจ ชนะ TKO ไปอย่างสวยงามในยกที่ 3 (ชมไฮไลต์การชนะน็อกของโจ คลิก)
“นี่คือครั้งที่สองที่ผมมาที่สิงคโปร์ ตอนนี้รู้สึกยอดเยี่ยมมากๆ เลยกับฟอร์มวันนี้ ซึ่งผมพร้อมที่จะประชันฝีมือในรอบต่อไปแล้ว ขอบคุณทุกคนที่มีส่วนให้ผมมาอยู่จุดนี้ได้” โจเปิดใจ
“ยอดแสนไกล ไอเว แฟร์เท็กซ์” ยอดมวยชาวไทยวัย 33 เต็ง 2 ของรายการ ถูกล้างแค้นเสียแล้ว เมื่อแพ้คะแนนต่อ “ซามี่ ซาน่า” ยอดฝีมือจากแดนน้ำหอมวัย 30 ปี ดีกรีแชมป์โลก ดับเบิลยูบีซีมวยไทยและเอวัน ในศึก คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ ปรีซ์ รุ่นเฟเธอร์เวตชาย รอบ 8 คนสุดท้าย หลังจากก่อนหน้านี้ยอดแสนไกลเคยชนะซาน่ามาในศึกไทยไฟต์เมื่อหลายปีก่อน
โดยตลอดการชก ทั้งสองดวลหมัดกันแบบสุดดุเดือด แต่ ซาน่า ออกอาวุธจะแจ้งกว่าโดยยิงหมัดซ้ายส่ง ยอดแสนไกล ล้มลงไปถูกนับในยกแรก จากนั้น “นักสู้คอมพิวเตอร์” ไม่มีอะไรจะเสีย เดินแลกหมัดสู้ทั้งบนและลำตัวใส่นักชกชาวฝรั่งเศสอย่างดุเดือดแต่เป็น ซาน่า ซัดนักชกไทยเข้าเป้าบ่อยครั้งมากกว่า ครบ 3 ยกเป็นทางฝ่ายของ ซาน่า ที่ชนะคะแนนและเข้าไปดวลกับ ซาบาร์ แอสเครอฟ จากรัสเซียในรอบตัดเชือก (คลิกชมคลิปไฮไลต์ – ยอดแสนไกล)
ด้านการต่อสู้ศิลปะแบบผสมผสาน (เอ็มเอ็มเอ : มิกซ์ มาร์เชียล อาร์ต) มีนักสู้ชาวไทยลงประชันฝีมือ 2 ราย
“ครูรงค์” เดชดำรงค์ ส.อำนวยศิริโชค ยอดนักชกจอมเก๋าชาวไทย อดีตแชมป์โลก ONE สตรอว์เวต ชาวไทย พลิกสถานการณ์จากที่โดนเทคดาวน์ลงพื้น เอาตัวรอดลุกขึ้นมาได้ แต่กลับเสียท่าโดนหมัดซ้ายของเหมี่ยว หลี่ เถา กำปั้นฟอร์มแรงจากจีน อัดเข้าเต็มคาง จนหล่นไปกองกับพื้นและแพ้น็อคในยกแรกเท่านั้น ในการการแข่งขัน มาร์เชียล อาร์ต รุ่นสตรอวเวตชาย (ชมไฮไลต์ครูรงค์ คลิก)
ขณะที่ “ครูตอง” ชนนภัทร วิรัชชัย นักสู้ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานชาวไทย แพ้น็อกต่อ “อิยูรี ลาปิคัส” คู่ชกจากประเทศมอลโดว่า ในการแข่งขันยกที่ 3 ด้วยสภาพใบหน้าสุดบอบ ในการชกคู่ประกอบรายการรุ่นไลต์เวท
ไฟต์นี้ครูตอง เปิดตัวสู่สังเวียนด้วยเพลง “ความเชื่อ” ของบอดี้แสลม วงร็อคชั้นนำของไทย เรียกพลังและความมั่นใจ แต่ทว่าตลอด 3 ยก ลาปิคัส มาดีกว่าเล่นงาน “ครูตอง” ชนนภัทร ด้วยการจับเทคดาวน์ลงพื้นแล้วรัวหมัดเข้าศรีษะจนนักกีฬาไทยมีแผลแตกที่ศรีษะ แม้จะประคองตัวสู้ต่อจนถึงยก 3 และออกหมัดเล่นงานอีกฝ่ายได้ แต่สุดท้ายก็เอาไม่อยู่เจอ ลาปิคัส ล็อคคอจากด้านหลังจนต้องยอมแพ้ปิดฉากไปในยกสุดท้าย
ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
