นายพิชัย ชุณหวชิร นายกสมากีฬามวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) มีมติให้ สหพันธ์มวยสากลนานานาชาติ (ไอบ้า) ไม่ได้เป็นผู้จัดการแบ่งขันมวยสากลในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในปีหน้า และไอโอซีจะเป็นผู้จัดการแข่งขันเองนั้น เรื่องนี้ทางไอโอซีได้รับข้อมูลจากคณะกรรมการทำงานเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา และได้มีการยืนยันว่า มวยสากลมีชิงชัยในโตเกียวเกมส์ 2020 แน่นอน แต่ทางไอโอซีจะเป็นผู้จัดการแข่งขันเอง โดยในการประชุมวันที่ 24 มิถุนายน ไอโอซีก็จะชี้แจงตามรายละเอียดดังกล่าวทั้งหมดนี้อีกครั้ง
นายพิชัยกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาไอโอซีเคยจัดมวยสากลเองมาแล้วหลังจากจบโอลิมปิกเกมส์ 2016 ซึ่งเป็นรายการระดับเยาวชน และได้การยอมรับว่า มีการตัดสินที่ยุติธรรม ดังนั้นหากไอโอซีจะจัดมวยสากลเองในโอลิมปิกเกมส์ 2020 คงไม่เป็นเรื่องน่ากังวลอะไร ส่วนกรณีไอบ้าจะกลับมาเป็นจัดการแข่งขันได้อีกหรือไม่นั้น ไอโอซีระบุว่า ต้องดูหลังจบโอลิมปิกเกมส์ 2020 ซึ่งไอโอซีหวังว่าจะมีการปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่าเดิมในเรื่องพื้นฐานคือ 1.เรื่องการเงิน 2.เรื่องวิธีการบริหาร และ 3.เรื่องการตัดสินที่ยุติธรรม จากนั้นไอโอซีก็จะพิจารณาอีกครั้ง
“ไอโอซีจะประชุมกันอีกครั้งหนึ่ง เพื่อจัดคณะขึ้นมาดูแลการจัดการแข่งขันมวยสากลในโอลิมปิกเกมส์ 2020 ซึ้งไอโอซีระบุรุ่นมาคือ ชาย 8 รุ่น และหญิง 5 รุ่น รวมทั้งในอนาคตเพื่อความเท่าเทียมทั้งชายและหญิงจะมีจำนวนรุ่นใกล้เคียงกันด้วย คือโอกาสที่มวยหญิงจะเพิ่มรุ่น และมวยชายจะลดรุ่นก็มีสูง ส่วนรายการควอลิฟายโอลิมปิกเกมส์ 2020 ยังไม่ทราบว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไร แต่เบื้องต้นคาดว่า จะอยู่ช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนมิถุนายน ซึ่งรายละเอียดจัดที่ไหนอย่างไรยังไม่ทราบ แต่สิ่งที่แน่ๆ ก็คือ สมาคมกีฬามวยสากลฯ ได้จัดทัพนักมวยให้เป็นไปตามรุ่นที่ไอโอซีได้กำหนดให้ชกคือ ชาย 8 รุ่น และหญิง 5 รุ่นเอาไว้ให้พร้อม” นายพิชัย กล่าว
นายกทัพกำปั้นไทยกล่าวอีกว่า ในการควอลิฟายโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ ไม่ว่าจะมีการจัด 2 หรือ 3 รายการเหมือนที่ผ่านมา เราก็จะต้องหวังเอาไว้หลายรุ่นว่าจะสามารถคว้าตั๋วโอลิมปิกเกมส์ 2020 ส่วนตัวคิดว่าน่าจะทำได้ 5-6 รุ่น รวมชายและหญิง ซึ่งทัพกำปั้นไทยตอนนี้กำลังดีวันดีคืน รวมทั้งมีนักชกหน้าใหม่ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าได้มีการพัฒนามาตั้งแต่ระดับเยาวชน ซึ่งหวังว่าเราจะดีขึ้นเรื่อยๆ เพื่อความหวังในการกลับไปทำผลงานได้ดีคว้าเหรียญให้ได้เหมือนในอดีต และจะต้องดีกว่าเดิมอีกด้วย แต่ก็ต้องยอมรับว่านักมวยทุกประเทศเขาก็พัฒนาขึ้นมากเช่นกัน โดยเฉพาะอินเดีย, จีน, เกาหลีเหนือ และไต้หวัน ที่มวยหญิงพัฒนาอย่างเหลือเชื่อ ทำให้การชิงชัยมวยสากลในโอลิมปิกเกมส์ไม่ง่ายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว และคนที่ได้เหรียญทองแปลว่าจะต้องสุดยอดจริงๆ
ขณะเดียวกัน ไอโอซี ยังได้ตั้งคณะทำงานขึ้น และส่งตัวไปยังกรุงโตเกียว เพื่อทำงานร่วมกับฝ่ายจัดการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ของญี่ปุ่นแล้ว นำโดยโมรินาริ วาตานาเบะ บอร์ดบริหารของไอโอซี ซึ่งมีตำแหน่งเป็นประธานสหพันธ์ยิมนาสติกนานาชาติด้วย และจะเริ่มวางแผนและกำหนดกรอบเวลา และหลักเกณฑ์การแข่งขันในรอบควอลิฟาย
