วัน แชมเปี้ยนชิพ องค์กรกีฬาศิลปะป้องกันตัวระดับโลกที่ยิ่งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์เอเชีย ประกาศว่า เอ็ดดี้ “The Underground King” อัลวาเรซ อดีตแชมป์โลกหลายสมัยชาวอเมริกัน และ เอดูอาร์ด “Landslide” โฟลายัง อดีตแชมป์ ONE รุ่นไลต์เวตชาวฟิลิปปินส์ จะได้ขึ้นสังเวียนในฐานะคู่รอบรองชนะเลิศของศึก ONE เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นไลต์เวต หลังจากที่ ทิโมเฟย์ นาสติวกิ้น ต้องถอนตัวออกจากทัวร์นาเมนต์เนื่องจากมีปัญหาการบาดเจ็บ
อัลวาเรซ ดีกรีแชมป์โลกรุ่นไลต์เวตสี่สมัย นอกจากจะเป็นนักกีฬาศิลปะป้องกันตัวที่มีลีลาน่าตื่นตาตื่นใจแล้ว เขายังเป็นคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์สองรายการใหญ่ในทวีปอเมริกาเหนือ ซึ่งตอนนี้เขาได้ร่วมแข่งขันบนเวทีที่ยิ่งใหญ่อีกแห่งนึงของวงการ และต้องการจารึกชื่อเป็นคนแรกที่คว้าแชมป์สามรายการใหญ่ของโลกให้ได้ กับตำแหน่งแชมป์ ONE รุ่นไลต์เวต
แม้จะเปิดตัวใน ONE Championship ได้ไม่ค่อยดีนัก เมื่อเขาโดน ทิโมเฟย์ นาสติวกิ้น ยอดฝีมือชาวรัสเซียชนะ TKO ไปเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ดี อัลวาเรซได้รับโอกาสกลับมาอยู่บนเส้นทางล่าเข็มขัดอีกครั้ง ซึ่งเขาจำเป็นต้องคว่ำโฟลายัง ซุปตาร์ชาวฟิลิปปินส์ในครั้งนี้ให้ได้ หากยังหวังถึงแชมป์ ONE ในอนาคต
ด้านโฟลายัง อดีตแชมป์ ONE รุ่นไลต์เวต เขาเกิดที่เมืองบาเกียว ก่อนติดทีมชาติในกีฬาวูซูและคว้าเหรียญทองหลายรายการจนถูกยกให้เป็นฮีโร่ของชาติ เจ้าของฉายา “Landslide” เบนเข็มเข้าสู่วงการ MMA ภายใต้การดูแลของ มาร์ก ซังเกียว แห่ง Team Lakay ก่อนซิวแชมป์ระดับประเทศในรุ่นเวลเตอร์เวตเมื่อเดือนมิถุนายน 2007 และได้ประเดิมไฟต์แรกกับ ONE Championship ในฐานะคู่เอกของรายการเมื่อเดือนกันยายน 2011
หลังจากนั้นห้าปี เขาก้าวขึ้นเป็นแชมป์ ONE รุ่นไลต์เวต ด้วยการเอาชนะ ชินยะ อาโอกิ ตำนานชาวญี่ปุ่น ในการแข่งขันที่สิงคโปร์ จากนั้นเขาก็ทั้งเสียแชมป์และได้กลับมาครอบครองอีกครั้ง ก่อนสุดท้าย เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาจะโดนอาโอกิล้างแค้น ชิงเข็มขัดกลับไปได้ด้วยการโดนล็อกจับซับมิสชั่นตั้งแต่ยกแรก
ตอนนี้โฟลายังอยู่ในสถานการณ์ที่เรียกได้ว่าอาจจะยากลำบากที่สุดบนเส้นทางอาชีพ เมื่อต้องพบกับขาใหญ่ในรุ่นไลต์เวตอย่าง อัลวาเรซ ซึ่งผู้ชนะในไฟต์นี้จะได้ตั๋วผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศทัวร์นาเมนต์ ONE เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นไลต์เวต กับ เซย์กิด กูเซย์น อาร์สลานาลิเยฟ กำปั้นชาวตุรกีต่อไป
ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
