ไกด์สนามมวยเผยชีวิตติดโควิดจนรักษาหาย หมอย้ำอย่ารังเกียจคนที่หายแล้ว

“โต้ง” นายวุฒิศักดิ์ ม่วงไหมทอง ไกด์สนามมวยลุมพินี เผยชีวิตช่วงติดโควิด-19 จนรักษาหาย พร้อมนำคำหมอมาเตือน อย่ารังเกียจผู้ป่วยโควิด-19 ที่รักษาหายแล้ว

หลังจากที่เชื้อไวรัสโควิด-19 ได้แพร่ระบาดอย่างหนักในประเทศไทย ซึ่งสาเหตุที่จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมาก หนึ่งในนั้นมาจากผู้ชมที่เข้าไปชมการแข่งขันมวยไทย ที่เวทีมวยลุมพินี เมื่อวันที่ 6 มีนาคม จนมีผู้ที่เข้าไปชมมวยในวันดังกล่าวติดเชื้อเป็นจำนวนมากนั้น

ล่าสุด “โต้ง” นายวุฒิศักดิ์ ม่วงไหมทอง พนักงานต้อนรับชาวต่างชาติของสนามมวยลุมพินีและราชดำเนิน ซึ่งพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราชและศูนย์การแพทย์กาญจนา เป็นเวลา 29 วัน จนรักษาหายเป็นปกติและได้กลับบ้านเป็นที่เรียบร้อย ออกมาเปิดเผยประสบการณ์ของตัวเองว่า เนื่องจากว่าทำงานที่สนามมวยทุกวัน จึงไม่กล้าฟันธงว่าตัวเองนั้นติดเชื้อตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เริ่มมีอาการตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม ก่อนที่จะได้ทราบข่าวของดาราดัง แมทธิว ดีน ติดเชื้อ จึงไปตรวจเมื่อวันที่ 14 และพบว่าติดเชื้อ

นายวุฒิศักดิ์ กล่าวต่อว่า เวทีมวยลุมพินีนั้นแบ่งออกเป็น 3 ชั้น มีรั้วกั้นหมด แต่ด้วยความที่มวยนั้นเบียดๆ กันดู รวมถึงเป็นแมตช์ใหญ่ทำให้มีคนเยอะ ตอนนั้นมาตรการก็เป็นเพียงตรวจวัดไข้ ส่วนหน้ากากก็ยังไม่ได้ใส่กันมาก และเจลล้างมือมีไม่กี่จุด ก่อนเกิดคนมวยก็ยังไม่ได้ป้องกันมากนัก อย่างไรก็ตามข้อสังเกตุที่บอกกันว่าเชื้อนั้นมาจากชาวอิตาลีคนเดียวนั้น ไม่น่าใช่ เพราะการแพร่เชื้อกระจายมากๆ ไปทุกชั้น ขนาดว่าประธานที่นั่งแยกยังโดนเลย

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า คนรอบตัวนั้นมีติดเชื้อบ้างหรือไม่ นายวุฒิศักดิ์ กล่าวว่า คนรอบตัวไม่มีติดเลย ในช่วงแรกที่มีอาการเริ่มเป็นไข้แล้วปวดเมื่อยตัวก็นอนอยู่บ้าน กินยาพารา พอรู้ข่าวว่าแมทธิวติดจึงรีบไปตรวจ ส่วนแฟนที่อยู่คอนโดด้วยกัน ก็พอเจอของตัวเองก็รีบให้ไปตรวจแล้วไม่ติด จึงให้กักตัวดูอาการอีก 14 วัน นอกจากนี้ยังมีไปเตะบอลกับเพื่อน 10 กว่าคน แต่ก็ไม่มีใครติดเช่นกัน เรื่องนี้หมอบอกว่า ถ้าหากยังไม่ออกอาการชัดเจน โอกาสจะแพร่เชื้อน้อยมาก จึงเน้นที่คนที่เจอกันหลังจากเริ่มออกอาการจนกระทั่งไปตรวจ
นายวุฒิศักดิ์ กล่าวเสริมว่า เรื่องวิธีการป้องกันนั้นมันมีชัดเจนอยู่แล้ว แต่ส่วนตัวจะแนะนำเรื่องการล้างมือเป็นสำคัญ เพราะบางครั้งนำมือไปหยิบของเข้าปากหรือขยี้ตา ถ้าหากระวังเรื่องมือได้จะสามารถป้องกันได้แน่นอน สำคัญกว่าการใส่หน้ากาก เพราะตัวเองก็ใส่หน้ากากแต่ต้น ก็ยังติด

Advertisement

“นอกจากนี้หมอได้ฝากว่า คนที่ป่วย หายแล้ว กลับไปอาศัยอยู่บ้าน ขอให้อย่าไปรังเกียจเขา เพราะตอนนี้หลายคนกลับไปเจอสังคมรังเกียจ ทั้งๆ ที่รักษาหายแล้ว มีน้องที่รู้จักคนหนึ่ง คอนโดไม่ให้เข้า ให้ไปอยู่ที่อื่น ที่สำคัญคือคนเหล่านี้แข็งแรงกว่า เนื่องจากมีภูมิต้านทาน แต่คนที่ยังไม่ติดนั้นมีโอกาสติดได้ง่ายกว่า และคนเหล่านี้จะไปแพร่กลับให้คนที่รักษาหายแล้วด้วยซ้ำ”

นายวุฒิศักดิ์ ปิดท้ายว่า ในส่วนของค่ารักษานั้นรักษาฟรีทั้งหมด ตั้งแต่ช่วงแรกที่รักษาที่โรงพยาบาลศิริราช 10 วัน มาพักฟื้นต่อที่ศูนย์การแพทย์กาญจนา (ศาลายา) รวมทั้งหมด 28-29 วัน มีจ่ายแค่ค่าไฟไป 240 บาท นอกจากนั้นดูแลให้ทั้งหมด และยืนยันว่าดูแลดีมากๆ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image