‘มวยไทย’ วิถีใหม่ ชกไร้เสียงเชียร์ ลุ้นสอบผ่านสู่เฟส 2

‘มวยไทย’ วิถีใหม่ ชกไร้เสียงเชียร์ ลุ้นสอบผ่านสู่เฟส 2

มวยไทย – จากที่ต้องตกเป็นจำเลยของสังคมก่อนหน้านี้ว่าเป็นแหล่งแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 จนถึงวันนี้ “มวยไทย” ได้โอกาสกลับมาจัดแข่งขันในรูปแบบใหม่ “นิว นอร์มอล” โดยมวยไทยนับเป็น 1 ใน 14 ชนิดกีฬาที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยรัฐมนตรี พิพัฒน์ รัชกิจประการ ลงนามประกาศให้กลับมาจัดการแข่งขันแบบไม่มีผู้ชมในสนาม

ทั้งหมด 14 ชนิดกีฬา ได้จัดทำคู่มือการปฏิบัติตามมาตรการผ่อนปรนกิจการและกิจกรรมด้านการกีฬา เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แบบไม่มีผู้ชมในสนามอย่างละเอียด ซึ่งทางด้าน ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้กำชับให้ทุกชนิดกีฬาจะต้องปฏิบัติตามคู่มืออย่างเคร่งครัด

ทั้งมาตรการก่อนแข่งขัน ระหว่างแข่งขัน และหลังการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬา เจ้าหน้าที่ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหลังจากนี้จะประเมินผลในการจัดการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง หากพบว่ากีฬาใดไม่ปฏิบัติตามคู่มือที่ให้ไว้ ศบค. ที่จะทำหน้าที่หลัก และ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) หน่วยงานกีฬา ที่จะทำหน้าที่เสริม มีสิทธิที่จะระงับการแข่งขันกีฬานั้นๆ ได้ตลอดเวลา

สำหรับ “มวยไทย” ที่ถูกจับตามองจากสังคมอย่างมาก ได้ประเดิมกลับมาจัดการแข่งขันกันเวทีแรกใน “ศึกจ้าวมวยไทย” ที่สนามมวยเวทีมวยสยามอ้อมน้อย เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด ทั้งตรวจวัดไข้ ให้แพทย์สนามตรวจร่างกายนักมวย และห้ามผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในห้องเตรียมตัวของนักมวย

Advertisement

บริเวณภายในสนามมวยจะควบคุมจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมในพื้นที่แข่งขันไม่เกิน 50 คน โดยแบ่งเป็น นักมวย, พี่เลี้ยง, หัวหน้าค่าย ฝั่งละไม่เกิน 4 คน รวม 8 คน / ผู้ตัดสินให้คะแนน, ผู้ตัดสินห้ามบนเวที, ประธานผู้ตัดสิน คู่ละ 5 คน / วงปี่พาทย์ ไม่เกิน 5 คน / แพทย์และพยาบาลสนาม 2 คน / ผู้สนับสนุน ไม่เกิน 10 คน

ผู้บรรยายแข่งขันมวย, พิธีกร ไม่เกิน 2 คน / ผู้รักษาเวลา 1 คน / เจ้าหน้าที่สนามมวย ไม่เกิน 7 คน / เจ้าหน้าที่ถ่ายทอดสดไม่เกิน 10 คน รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 50 คน โดยต้องเตรียมนวมชกมวยให้เพียงพอตามจำนวนนักกีฬา ห้ามใช้นวมซ้ำกันในการแข่งขันวันเดียวกัน จัดให้มีฉากกั้น 4 ด้าน สำหรับกรรมการให้คะแนนด้วย

นักมวยทุกคนจะต้องผ่านการตรวจโควิด-19 ทางห้องปฏิบัติการแบบบุคคล หรือแบบรวมตัวอย่าง และต้องสวมหน้ากากอนามัย รวมทั้งล้างมือ ทั้งก่อน และหลังการแข่งขัน ลดการพูดคุยที่ไม่จำเป็น หากจำเป็นควรพูดโดยใช้ระดับเสียงปกติ ไม่ตะโกน งดเว้นการจับมือ โอบกอดแสดงความดีใจ และเลี่ยงไอ หรือจาม ใกล้ผู้อื่น

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือ ให้นักมวยหลีกเลี่ยงการเข้าปล้ำวงใน ทั้งการซ้อม และการแข่งขัน ส่วนผู้ตัดสินห้ามมวยบนเวที ให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสตัวนักมวย และให้ใช้สัญญาณเสียง หรือสัญญาณมือแทน หลังแข่งขันเสร็จ นักมวยและผู้ติดตาม กรรมการ และบุคคลอื่นต้องรายงานตัวเป็นเวลา 14 วัน ต่อแพทย์สนามมวย เพื่อติดตามสุขภาพร่างกาย

มาตรการทั้งหมดนั้นเป็นวิถีใหม่ที่เกิดขึ้นกับการแข่งขัน “มวยไทย” ในรูปแบบ “นิว นอร์มอล” ที่จำเป็นจะต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ “ยุคโควิด” เพื่อความอยู่รอดในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถูกตกเป็นจำเลยสังคมก็ยิ่งที่จะระมัดระวังเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ

มวยไทย นิว นอร์มอล มีสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่หน้าเวทีจะมีจุดคัดกรอง ด้านในมีการฉีดพ่นสเปรย์แอลกอฮอล์ อุปกรณ์นวม ชุดนักมวย ในห้องพักมีการแยกเตียงนักมวย โดยมีที่กั้น รวมถึงจำกัดควบคุมคนบริเวณข้างสนามมีแค่พี่เลี้ยงไม่กี่คนเท่านั้น

ภาพการใส่เฟซชิลด์ เป็นภาพที่เพิ่งเคยขึ้นในวงการมวยไทย เมื่อกรรมการมบนเวที ต้องสวมเฟซชิลด์ ใส่หน้ากากอนามัย สวมถุงมือยาง ทำหน้าที่ห้ามบนเวที ขณะที่นักมวยก่อนขึ้นสังเวียนไปจนถึงขั้นตอนไหว้ครูก็ต้องสวมเฟซชิลด์ ส่วนพี่เลี้ยงอยู่ข้างมุมก็ต้องใส่ตลอดเวลา กรรมการผู้ให้คะแนนนก็ใส่เฟซชิลด์ จึงถือเป็นภาพใหม่ที่แปลกตา

ส่วนการชกมีสิ่งที่เปลี่ยนไปคือ พอไม่มีคนดู ไม่มีเซียนมวย ทำให้นักมวยเลือกเดินเข้าหาออกอาวุธตั้งแต่ยกแรก เปิดแลกชิงจังหวะกันสนุก ออกอาวุธครบ 3 ยก ทำให้อรรถรสการรับชมมวยไทยเข้มข้นยิ่งขึ้น แต่มวยเข่าลำบาก เพราะได้ปรับกติกาเล็กน้อย โดยจังหวะคลุกวงใน ถ้ากอดปล้ำไม่ออกอาวุธ หรือออกอาวุธแล้วไม่ชัดเจน กรรมการรีบจับแยกทันที

ดังนั้น นักมวยประเภทขุนเข่าจึงเสียเปรียบ จะมากอดรัดฟัดเหวี่ยงตัวกลมแบบเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว มวยเข่าจึงต้องปรับตัว มาแลกแข้งแลกหมัดวงนอก และฝึกปรืออาวุธวงนอกมากขึ้น

อีกหนึ่งบรรยากาศคือ ไร้เสียงเชียร์ ไม่มีเซียนมวยกดดัน ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินด้วย ทำให้นักมวยต้องปรับตัวกันพอสมควร ทั้งการชกกับคู่ต่อสู้ และการชกแบบไร้เสียงเชียร์

สมิงดำ ฉ.อจลบุญ ซึ่งเป็นมวยคู่เอกที่ชนะคะแนน เพชรสุนทรี จิตรเมืองนนท์ ในการหวนสังเวียนจัดศึกจ้าวมวยไทย เผยถึงความรู้สึกการชกมวยไทยแบบนิว นอร์มอล ว่า การชกในบรรยากาศเงียบๆ ไม่มีคนดูก็รู้สึกแปลกๆ เพราะปกติจะมีคนดูคอยเชียร์ อยากจะฝากพี่ๆ น้องๆ วงการมวยทุกคนว่าแม้จะมีอุปสรรค แต่ก็ต้องสู้กันไป เดี๋ยวก็ดีขึ้น และก็ต้องปรับตัวกันไปตามสถานการณ์

ส่วนกรณีที่กรรมการจะเข้าห้ามเร็วนิดนึงในจังหวะคลุกวงในตีเข่านั้น สมิงดำ บอกว่า เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่โควิด ซึ่งก็ต้องเห็นใจกรรมการ เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นมาทางสนามมวย โปรโมเตอร์ก็จะโดนต่อว่าได้ คิดว่าตอนนี้วงการมวยกลับมานับหนึ่งแล้วก็คิดว่าน่าจะเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ แต่ต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร

ขณะที่ “เสี่ยโบ๊ท” ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ โปรโมเตอร์หนุ่มไฟแรงแห่งศึกใหญ่อย่าง เพชรยินดี บอกว่า คำว่า “นิว นอร์มอล” ยังไม่พอสำหรับมวยไทย แต่ต้องใช้คำว่า “นิว มวยไทย” เพราะคือสิ่งเร่งด่วน และจำเป็นที่สุดที่ต้องทำ และแก้ไขในทันที โดยคงจะต้องปฏิรูปคือ การเปลี่ยนแปลง ทั้งคน และระบบ

“ถ้าขืนยังอยู่กันแบบนี้ รอนับถอยหลังตอนอวสานของมวยไทยได้เลย มันถึงจุดที่ต้องนั่งมองตัวเองได้แล้วว่าเรามีประโยชน์ หรือกำลังเป็นตัวถ่วงความเจริญ เปรียบมวยไทยเหมือนเป็นบ่อน้ำ ถ้าทุกคนต่างตัก ต่างจ้วงหาประโยชน์ ถึงบ่อนี้จะยิ่งใหญ่ขนาดไหน แต่ไม่ทำนุบำรุงรักษา ในที่สุดน้ำบ่อนี้ก็ต้องหมดเหลือเศษดินแห้งๆ ไว้เป็นอนุสรณ์ให้คนรุ่นหลังได้ระลึกถึง” เสี่ยโบ๊ทเปรียบเปรยให้ฟัง

วิบูณ จำปาเงิน

ด้าน วิบูณ จำปาเงิน ผู้อำนวยการสำนักคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ระบุว่า ตอนนี้ 6 สนามมวยดังอย่าง ราชดำเนิน, ลุมพินี, เวทีช่อง 7, อ้อมน้อย, รังสิต และธนกร สเตเดียม สามารถจัดการแข่งขันแบบปิดได้ตามปกติ แต่ต้องเฝ้าระวัง และทำตามคู่มือมวยไทยแบบนิว นอร์มอล

นอกจากนี้ ทาง กกท.ได้เตรียมมาตรการระยะ 2 ให้มวยไทยแข่งขันโดยมีผู้ชมในสนาม แต่ให้เว้นระยะห่างทางสังคม โดยเตรียมจะเชิญบุคคลจากสนามมวยทั้ง 7 แห่ง มาประชุมหาข้อสรุปร่วมกันครั้งที่ 1 และส่งให้ทาง ศบค.พิจารณา ถ้าหากทาง ศบค.ดูแล้วว่ามีความเชื่อมั่นที่จะไม่มีการติดเชื้อก็อาจจะทำให้มวยจะมีคนดูได้ในระยะที่ 2 แต่ต้องเว้นระยะห่างทางสังคม

ทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นวิถีใหม่ที่เกิดขึ้นกับ “มวยไทย” ในยุค “นิว นอร์มอล” ที่จำเป็นต้องปรับตัวร่วมกันทั้งองคาพยพ เพื่อความอยู่รอดในสถานการณ์ยุคโควิด-19 ซึ่งมวยไทยถือว่าเคยตกเป็นจำเลยสังคมมาแล้วรอบหนึ่ง ดังนั้น คนวงการมวยทุกคนจึงพร้อมใจกันปรับตัวต่อสู้กับวิกฤตโควิด-19 เพื่อหวังลบข้อครหาดังกล่าวให้หายสิ้นไปจากสังคมไทย…

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image