ปาเกียวแย้มอาจจะเป็นไฟต์สุดท้ายในชีวิต ยอมรับสภาพร่างกายเริ่มไม่ไหว ขอเวลาทบทวนก่อนตัดสินใจ
แมนนี่ ปาเกียว อดีตแชมป์มวยโลก 8 รุ่นคนแรกและคนเดียวของโลกชาวฟิลิปปินส์ ให้สัมภาษณ์สื่อภายหลังแพ้คะแนนเอกฉันท์ให้ยอร์เดนิส อูกัส นักชกชาวคิวบา 113-115, 112-116, 112-116 ในการชกทวงเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นเวลเตอร์เวตสมาคมมวยโลก (ดับเบิลยูบีเอ) ซึ่งอูกัสเป็นแชมป์ซุปเปอร์เวิลด์ในปัจจุบัน ที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม แย้มเป็นนัยๆ ว่า อาจจะไม่ได้กลับมาขึ้นสังเวียนอีกแล้ว
เจ้าของฉายา “แพ็กแมน” วัย 42 ปี ซึ่งมีสถิติชก 72 ไฟต์ ชนะ 62 (ชนะน็อก 39) แพ้ 8 เสมอ 2 กล่าวว่า ในอนาคตคุณอาจไม่ได้เห็นแมนนี่ ปาเกียว ขึ้นชกมวยอีกแล้ว ตนเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ที่ผ่านมาตนผ่านสังเวียนมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ตอนนี้คงต้องคิดเรื่องอนาคตบนเส้นทางนี้ รวมถึงการใช้เวลากับครอบครัว โดยต้องขอเวลาคิดระยะหนึ่ง ใจตนยังอยากจะสู้ต่อ แต่ก็ต้องคิดถึงสภาพร่างกายของตัวเองด้วย
ส่วนเรื่องการชกไฟต์นี้ ปาเกียวยอมรับว่า รู้สึกเหมือนเกิดตะคริวที่ขาทั้ง 2 ข้าง ทำให้เคลื่อนไหวแทบไม่ได้เลย แต่จะไม่เอาเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้าง เพราะที่ผ่านมาตนก็ซ้อมหนักมาก ขึ้นซ้อมชก 32 ยกต่อวัน และซ้อมวิ่งขึ้นเขา บางทีอาจเป็นเพราะอายุมากแล้ว สำหรับไฟต์นี้ตนทำดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว แต่ก็ดีไม่พอ อยากจะทวงเข็มขัดคืนมา แต่สุดท้ายแชมป์โลกก็ยังเป็นอูกัส
ปาเกียวกล่าวต่อว่า หลังจากนี้ยังมีเรื่องงานการเมือง เพราะมีอีกหลายอย่างที่อยากจะทำให้ได้เพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติ ตนอยากเป็นแรงบันดาลใจให้กับชาวฟิลิปปินส์ ทั้งในและนอกสังเวียน เนื่องจากตนเป็นนักสู้ไม่ว่าจะอยู่บนเวทีหรือไม่ เป้าหมายหลังจากนี้คือการกลับบ้านเกิด ไปหาทางช่วยชาวฟิลิปปินส์ให้รอดพ้นจากสถานการณ์โรคระบาดที่กระทบกับชีวิตคนนับล้านๆ ในขณะนี้
ด้านเฟร็ดดี้ โรช เทรนเนอร์คู่ใจของปาเกียว กล่าวว่า ปาเกียวเป็นนักมวยที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่ตนเคยดูแลมา โดยส่วนตัวไม่อยากเห็นวันที่เขาต้องแขวนนวมเลย แต่ยอมรับว่าหลังจบไฟต์นี้แล้ว อาจจะถึงเวลาแล้วก็ได้ คงต้องรอดูการตัดสินใจของเขา ส่วนเรื่องการชก ต้องยอมรับว่า ปาเกียวเป็นรองเรื่องช่วงชก เพราะอูกัสสูงกว่า แขนยาวกว่า ทำให้ปาเกียวชกไม่ค่อยถึง แต่เขาก็ทำเต็มที่แล้ว
