ฤกษ์ดี ‘ครูโอเล่ห์’ ปราบปรามเล็ก ทุ่มเงิน 5 ล้าน เปิดยิมมวยไทย ที่ฮ่องกง

ฤกษ์ดี ‘ครูโอเล่ห์’ ปราบปรามเล็ก ทุ่มเงิน 5 ล้าน เปิดยิมมวยไทย ที่ฮ่องกง

“ครูโอเล่ห์” พงษ์ศักดิ์ เหรียญทวนทอง หรือ ปราบปรามเล็ก ศิษย์สันทัด อดีตมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทย และอดีตแชมเปี้ยนมวยไทย เวทีราชดำเนิน ลงหลักปักฐาน หลังไปเป็นครูมวยในต่างแดนนับสิบกว่าปี ล่าสุดเปิดโรงยิมสอนมวยไทยของตัวเองอย่างเป็นทางการ บนเกาะฮ่องกง ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติ และลูกศิษย์ชาวจีน และต่างประเทศอย่างอบอุ่น

เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2564 มีพิธีเปิดโรงยิมมวยไทย ในนาม “โอเล่ห์ มวยไทย แอนด์ ฟิตเนส” ย่านไทจี๋ เกาะฝั่งเกาลูน (ฮ่องกง) โดย “ครูโอเล่ห์” พงษ์ศักดิ์ เหรียญทวนทอง อดีตนักมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทย หรือ ปราบปรามเล็ก ศิษย์สันทัด อดีตแชมเปี้ยนมวยไทย เวทีมาตรฐานราชดำเนิน เป็นเจ้าของโรงยิม เป็นผู้ทำพิธีเปิด ท่ามกลางผู้สนับสนุน หุ้นส่วนร่วม และ ลูกศิษย์ทั้งชาวจีนและต่างชาติอีกมากมาย ร่วมแสดงความยินดี

“ครูโอเล่ห์” เปิดใจ ตนเป็นชาวจังหวัดระยอง หลังจากเลิกชกมวยแล้วเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน หันมาเป็นครูสอนมวยไทยในต่างแดน จากการชักชวนของ ปราบศึกเล็ก ศิษย์สันทัด อดีตนักมวยเก่ารุ่นน้องเมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมา มาสอนมวยในฮ่องกงหนึ่งปี แล้วย้ายไปสอนที่ปักกิ่งสองปี จากนั้นกลับมาอีกครั้งที่ฮ่องกง และเป็นครูสอนยาวจนถึงปัจจุบัน มีเจ้านายผู้ใจดี และมีพระคุณอย่างสองสามีภรรยา คือ เคลวิน อไบร่า Kalvin Abira และเอลลี่ อไบร่า Ally Abira เจ้าของโรงยิม อไบร่า เป็นสถานบริการสอนมวยไทย และ ฟิตเนสออกกำลังกาย ย่านมงก๊ก ,ฝั่งเกาลูน มีลูกศิษย์มากมายทั้งชาวจีน และ ฝรั่งต่างชาติ

“ถึงวันนี้ ผมเก็บเงินสะสมและตัดสินใจเปิดโรงยิมสอนมวย ฟิตเนส เป็นของตัวเองเดินตามความฝัน ใช้เงินทุนส่วนตัวเบื้องต้นราวๆ 4-5 ล้านบาท ทำธุรกิจเป็นกิจการตัวเอง ทั้งนี้ต้องขอบคุณผู้สนับสนุนมากมาย นอกจากเจ้านายเก่า อไบร่า แล้ว ยังมีบรรดาลูกศิษย์ ที่ช่วยสนับสนุน กันมายาวนาน รวมทั้ง จุไรรัตน์ แต้มพงษ์ ภรรยาสุดที่รักที่เมืองไทย และที่ลืมไม่ได้คือหุ้นส่วนสำคัญอย่าง ลอร่า ไล Lora Lai เพื่อนผู้แสนดีชาวฮ่องกง ที่ช่วยสนับสนุนเต็มที่ และยังมี เฮนรี่ ลุย henry Lui ลูกศิษย์เศรษฐีในฮ่องกง ตลอดจน คุณ สินีนุช โกกนุทาภรณ์ ฯลฯ ทำให้ตนมีวันนี้ขึ้นมาได้”

Advertisement

ครูโอเล่ห์ เผยอีกว่า เราทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยวิชาชีพมวยไทยในต่างแดน ถึงวันนี้ พอลืมตาอ้าปากตั้งหลักได้ ก็เลยขอลาออกเพื่อมาทำธุรกิจของตัวเอง เราเติบโตมาจากมวยไทย จึงอยากใช้ชื่อ “โอเล่ห์ มวยไทย แอนด์ ฟิตเนส” ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ในย่านไทจี๋ บนฝั่งเกาลูน เกาะฮ่องกง หากพี่น้องชาวไทย แวะผ่านมาเที่ยว อย่าลืมมาเยี่ยมชม นอกจากนี้ ผมยังพร้อมยินดีเปิดกว้าง ขอต้อนรับสำหรับ นายทุนชาวไทยผู้สนใจจะเข้ามาสนับสนุนเป็นสปอนเซอร์ ทั้งในส่วนของอุปกรณ์การฝึกซ้อม ผลิตภัณฑ์มวยไทย ก็ยินดีต้อนรับเป็นอย่างยิ่ง เพราะแบรนด์มวยไทย สินค้าของไทยนั้น เป็นที่ทราบกันดี และเป็นที่ยอมรับในระดับโลก ผมจึงอยากมีส่วนร่วมและภูมิใจในการเผยแพร่สิ่งเหล่านี้ไปด้วยกัน

สำหรับการดำเนินชีวิตในฮ่องกง ช่วงวิกฤตไวรัสโควิดแพร่ระบาดทั่วโลกนั้น ปราบปรามเล็ก ให้ความเห็นว่า สถานการณ์ทั่วไปในฮ่องกงนั้น ค่อนข้างนิ่ง เพราะคนส่วนใหญ่ฉีดวัคซีนป้องกัน จึงไม่ค่อยมีปัญหา ขณะเดียวกันเมื่อมีโควิด เรื่องปัญหาการเมืองของเด็กรุ่นใหม่กับรัฐบาลกลางจีน ก็ดูเบาบางลงไปจึงไม่มีผลกระทบใดๆ วิถีชีวิตที่นี่จึงเป็นไปตามปกติ ในส่วนของโรงยิม ยังคงมีสมาชิกและลูกศิษย์มาลงทะเบียนเรียน รวมทั้งกำลังรอวีซ่าของนักมวยไทยรุ่นน้องอีก 2 คน ที่จะเดินทางจากเมืองไทยมาช่วยเป็นเทรนเนอร์ และผู้ฝึกสอนที่นี่อีกด้วย”

“เพิ่งมีพิธีเปิดโรงยิมเมื่อวานนี้ (12 กันยายน) อย่างเป็นทางการ ผมพร้อมแล้วตอนนี้หลายๆอย่าง ก่อนตัดสินใจลงทุน เบื้องต้นใช้งบประมาณ 4-5 ล้านบาท รายจ่ายค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ เบ็ดเสร็จตกเดือนละประมาณ 5 หมื่นเหรียญฮ่องกง (ราวๆ 211,000 บาท) ถ้าสถานการณ์โควิดคลี่คลาย เปิดประเทศเต็มตัว ก็คงอยู่ได้ และอยากเชิญชวนพี่น้องคนไทยแวะมาเที่ยวและเยี่ยมเยียนที่โรงยิมผมด้วยครับ”

พงษ์ศักดิ์ เหรียญทวนทอง (ชื่อจริง) เป็นชาวจังหวัดระยอง เป็นมวยไทยอาวุธครบเครื่อง ถือเป็นมวยรุ่นใหญ่ระดับคุณภาพ คว้าแชมเปี้ยนมวยไทย เวทีราชดำเนิน รุ่น 130 ปอนด์ ด้วยการชนะคะแนน พันธุ์นารายณ์ ศ.สุวรรณภักดี ป้องกันตำแหน่งไวได้ถึง 5 ครั้งก่อนจำต้องสละเข็มขัด เพราะไม่มีคู่ต่อกรที่เหมาะสม เคยแพ้คะแนน นำขบวน หนองกี่พาหุยุทธ ในการชิงแชมป์ สภามวยไทยโลก รุ่น 130 ปอนด์ ,แพ้คะแนน แสงเทียนน้อย ส.รุ่งโรจน์ ในการชิงแชมป์เวทีลุมพินี รุ่น 135 ปอนด์ ถือเป็นมวยเอกฝั่งเวทีราชดำเนิน ร่วมยุคสมัย 3 ทหารเสือของค่าย ศิษย์สันทัด ของ สารวัตรสันทัด ผ่องแผ้ว ที่มี ปราบศึก และ ปราบปราม ร่วมเป็นมวยไทยประดับค่ายในยุคนั้น

ในส่วนของมวยสากลสมัครเล่น รับราชการสังกัดทหารเรือ ยศ จ่าเอก พร้อมรับใช้ชาติ สร้างผลงานเชิงกำปั้น ดีกรี แชมป์ประเทศไทย 6 สมัย ,เหรียญทอง เวิลด์ กรังปรีซ์ ที่สาธารณรัฐเช็ก ,เหรียญทองคิงส์คัพ ,เหรียญเงิน ซีเกมส์ 2 สมัย (ชวดแชมป์แบบค้านสายตา ที่ มาเลเซีย และ บรูไน) ,เหรียญทองแดง เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13 ปี พ.ศ.2541 ที่ ไทยเป็นเจ้าภาพ ,ตกรอบแรก โอลิมปิกเกมส์ ปี 2000 ที่ ซิดนี่ย์ ,ออสเตรเลีย

เทิร์นโปรชกมวยสากลอาชีพ เคยไปชิงแชมป์พาบ้าที่ อินโดนีเซีย แพ้คะแนนค้านสายตาให้แก่ ดาด้า บาฮารี่ นักมวยเจ้าถิ่น และชกมวยสากลอาชีพอีก 4-5 ไฟต์ ในต่างแดน อาทิ อุซเบกิสถาน ราวปี พ.ศ.2550 ก่อนแขวนนวมหันไปเป็น ครูสอนมวยไทย จนถึงปัจจุบัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image