‘บัวขาว’ พร้อมฟาดปาก ‘โคตะ’ เปิดประสบการณ์ใหม่ของเวทีราชดำเนิน
‘บัวขาว บัญชาเมฆ’ รับสุดตื่นเต้นได้กลับคืนสังเวียนราชดำเนินอีกครั้ง เพื่อทำศึกมวยไฟต์พิเศษฟาดปากกับ ‘โคตะ มิอุระ’ นักชกหนุ่มหน้ามนแดนอาทิตย์อุทัย ใน ‘KAT PRESENTS LEGEND OF RAJADAMNERN’ วันที่ 19 สิงหาคมนี้
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ที่เวทีมวยราชดำเนิน ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เป็นประธานในการแถลงข่าวศึกมวยไฟต์พิเศษ “KAT PRESENTS LEGEND OF RAJADAMNERN” ระหว่าง “บัวขาว บัญชาเมฆ” นักชกขวัญใจชาวไทย จะปะทะกับ โคตะ มิอุระ นักชกดาวรุ่งจากประเทศญี่ปุ่น ที่จะชกกันในคำ่วันที่ 19 สิงหาคม ถ่ายทอดสดทางช่องเวิร์คพอยท์ หมายเลข 23
ดร.สุปราณี กล่าวว่า รายการนี้เป็นความร่วมมือร่วมใจของภาครัฐ สมาคมและเอกชนที่จัดให้เกิดอีเวนต์ระดับโลกนี้ได้ และทางกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติยินดีอย่างยิ่งกับความสำเร็จครั้งนี้ เพราะมวยไทยเป็นกีฬาที่ทั่วโลกรู้จัก เป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทยที่ทั่วโลกรู้จัก ยิ่งเป็นการประกบคู่ของนักชกระดับโลกแบบนี้ทำให้เวทีมวยราชดำเนินจะเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ในขณะที่เวทีมวยราชดำเนินมีการปรับปรุงจนสามารถกลายเป็นสปอร์ต เอนเตอร์เทนเมนต์ เซนเตอร์ ทัดเทียมสนามกีฬาระดับโลกได้ในไม่ช้า ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นซอฟท์พาวเวอร์ที่ทรงพลังสำหรับประเทศไทย
ผู้จัดการกองทุนฯ กล่าวต่อว่า ทางกองทุนพร้อมช่วยผลักดันกีฬามวยไทยให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น และเป็นแรงบันดาลใจให้นักกีฬามวยไทยทั้งคนไทยและชาวต่างชาติพัฒนาฝีมือตัวเอง ทำให้กีฬามวยไทยสนุกขึ้น มีนักกีฬาเพิ่มมากขึ้น สร้างเครือข่ายไปยังทั่วโลก
ด้านพล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา นายกสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย กล่าวว่า งานนี้เป็นการร่วมมือกันของหลายฝ่าย ซึ่งจุดเริ่มต้นของคิกบ็อกซิ่งเองพัฒนามาจากมวยไทยจนได้รับความนิยม เป็นเรื่องดีที่ทั้งสองคนจะได้มาสู้กันที่ประเทศไทย บัวขาวเป็นนักชกที่มากประสบการณ์ ผ่านเวทีระดับโลกมากมาย ส่วนโคตะ มิอุระ ก็กำลังเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง แม้ประสบการณ์จะน้อยกว่า แต่ก็โด่งดังทั่วโลก ดังนั้นการเจอกันของทั้งสองคนจะเป็นที่สนใจของทั่วโลก
ขณะที่ นายเธียรชัย พิสิฐวุฒินันท์ ซีอีโอ บริษัท โกลเบิล สปอร์ต เวนเจอร์ส จำกัด ผู้นำทีมพัฒนาเวทีมวยราชดำเนินให้เต็มไปด้วยแสงสีเสียงแบบเดียวกับสนามกีฬาระดับโลกและเป็นผู้จัดการแข่งขันชกมวยไทยรายการ “ราชดำเนิน เวิล์ด ซีรีส์” กล่าวว่า ต้องขอบคุณการสนับสนุนจากภาครัฐที่ทำให้ศึกนี้เป็นจริงขึ้นมา เชื่อมั่นว่าไฟต์นี้จะสร้างกระแสความสนใจไปทั่วโลก และยกระดับมวยไทยให้มีความเป็นสากลมากขึ้น ทำให้เวทีมวยราชดำเนินเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกหนึ่งแห่ง
บัวขาว กล่าวว่า ครั้งสุดท้ายที่ชกบนเวทีมวยราชดำเนินคือเมื่อ 18 ปีที่แล้ว ก่อนจะออกไปโชว์ศิลปะมวยไทยทั่วโลก ไม่คิดว่าจะได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง เวทีมวยราชดำเนินคือต้นกำเนิดกีฬามวยไทย แค่เดินกลับเข้ามาภาพเก่าๆ ก็โผล่เข้ามาแล้ว ดังนั้นขอบคุณโอกาสในครั้งนี้
ขณะที่โคตะ มิอุระ กล่าวว่า ไม่อยากเชื่อว่าเวทีมวยราชดำเนินจะติดต่อให้ตนมาชกที่นี่ ดีใจที่จะได้เจอกับตำนายอย่างบัวขาว เป็นนักสู้ที่เก่งทุกด้าน แม้ว่าจะไม่เคยชกแบบคิกบ็อกซิ่งมาก่อน แต่ก็เคยฝึกมาบ้าง จะพยายามใช้จุดเด่นของการเป็นนักชก MMA มาปรับใช้บนเวที
ทั้งนี้นอกจากการปะทะกันของทั้งสองคนแล้ว ในตอนท้ายจะมีคอนเสิร์ตจากเจ้าพ่อวงการเพลงแร็พไทยอย่าง “โจอี้บอย” และ “ก้านคอคลับ” ที่ขนทัพมาสร้างความบันเทิง ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในเมืองไทยกับการสร้างสรรค์ประสบการณ์ความบันเทิงรูปแบบใหม่ในการดูมวย
