ชีวิตต้องสู้! ‘หนุ่มพังงา’ จากนักมวยผู้แกะสลักรองเท้าขาย สู่การปลดหนี้ให้ครอบครัว

ชีวิตต้องสู้! ‘หนุ่มพังงา’ จากนักมวยผู้แกะสลักรองเท้าขาย สู่การปลดหนี้ให้ครอบครัว

ย้อนดูเส้นทางชีวิตของ “หนุ่มพังงา อีเกิลมวยไทย” นักมวยหนุ่มยอดกตัญญู ที่ขอสู้สุดใจเพื่อปลดหนี้ให้ครอบครัว โดยเขามีคิวกลับมาขึ้นสังเวียนโชว์ฝีมืออีกครั้ง พร้อมเป้าหมายพิชิตโบนัสให้ได้เป็นครั้งที่สองติดต่อกัน เพื่อนำไปปลดหนี้ให้ครอบครัว โดยจะต้องพบกับ “เพชรกาฟิวส์ จิตรเมืองนนท์” ในกติกามวยไทย แคตช์เวต 140 ปอนด์ ในศึก ONE ลุมพินี 38 ที่จะถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในวันศุกร์ที่ 27 ตุลาคมนี้ คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. และถ่ายทอดสดช่อง 7HD กด 35 เริ่มเวลา 20.30 น.

“หนุ่มพังงา อีเกิลมวยไทย” หรือชื่อจริง “อภิวัฒน์ กองสิน” เริ่มฝึกมวยไทย ตอนอายุ 8 ขวบ จากการได้รับแรงบันดาลใจจากน้าชายที่เป็นนักมวยไทย ก่อนตัดสินใจย้ายมาซ้อมมวยแบบจริงจัง เพื่อก้าวสู่การเป็นนักมวยไทยอาชีพที่ค่ายมวยอีเกิลมวยไทย ใน จ.ภูเก็ต ตอนอายุ 15 ปี เพื่อแบ่งเบาภาระการเงินทางบ้าน ซึ่ง “หนุ่มพังงา” ก็สามารถหาเงินจากการชกมวย นำมาส่งตัวเองเรียนตั้งแต่ระดับชั้น ม.ปลาย จนจบปริญญาตรีได้อย่างน่าภูมิใจ

Advertisement

หลังจบการศึกษา “หนุ่มพังงา” ยังคงมุ่งเอาดีด้านการชกมวยอย่างต่อเนื่อง โดยเคยผ่านประสบการณ์ขึ้นชกทั้งในรูปแบบ 5 ยกและ 3 ยกมาแล้วอย่างโชกโชน ก่อนจะเจอวิกฤตในช่วงโควิดที่ไม่มีรายการขึ้นชก จนต้องหารายได้เสริมที่ประยุกต์มาจากความชอบในการวาดรูปของตัวเอง อย่างการ “แกะสลักรองเท้าแตะ” เป็นลวดลายต่างๆ ออกมาขาย

“ในช่วงโควิด ผมว่างมากเพราะไม่มีรายการให้ชก ก็นั่งวาดรูปเล่น จนมีเพื่อนมาเห็น และบอกผมว่าเขาอยากได้ “รองเท้าแตะแบบแกะลาย” ซึ่งหลังผมทำให้เพื่อนเสร็จ ก็ถ่ายรูปลงบนเฟซบุ๊กของผม เพื่อโพสต์ถามว่ามีใครสนใจจ้างผมแกะสลักรองเท้าไหม ปรากฏว่ามีคนสั่งทำเข้ามามากกว่าที่คิด ผมแกะสลักรองเท้าไปแล้วมากกว่า 200-300 คู่ ได้กำไรเกือบ 3 หมื่นบาท ส่วนใหญ่คนที่ซื้อไป ก็สวมใส่เป็นแฟชั่นสวยงาม ส่วนบางคนมองว่ามันสวยมากเกินไปไม่กล้าใส่ก็มีครับ”

Advertisement

หลังผ่านพ้นวิกฤตโควิดเพียงปีเดียว “หนุ่มพังงา” ก็ได้รับโอกาสเข้ามาเปิดตัวครั้งแรกในศึก ONE ลุมพินี 16 และสามารถเอาชนะทีเคโอ “อาลิคาน เออร์เกสฮอฟ” ไปในยกที่สาม คว้าโบนัส 3.5 แสนบาท มาครองได้สำเร็จ พร้อมกับหลั่งน้ำตาลูกผู้ชายออกมากลางสังเวียนหลังรู้สึกปลื้มใจที่จะได้นำเงินก้อนโตนี้ไปปลดหนี้ให้กับครอบครัว

“พอผมรู้ว่าได้โบนัส ผมก็ร้องไห้ออกมาเลยครับ ผมไม่รู้ว่าจะเก็บความรู้สึกยังไง ผมเก็บความปลื้มใจไว้ไม่อยู่จริงๆ ผมดีใจมาก เพราะชีวิตนี้ทั้งชีวิต ผมยังนึกไม่ออกเลยว่าจะหาเงินก้อนใหญ่แบบนี้ได้จากที่ไหน ซึ่งเงินที่ได้มา ผมก็นำไปปลดหนี้ธนาคารให้กับครอบครัว จากยอดหนี้ทั้งหมด 5 แสนบาท เหลือประมาณ 2-3 แสนบาทแล้ว และอีกส่วนผมก็แบ่งเข้าบัญชี ให้พ่อแม่ไว้ใช้ 5 หมื่นบาท ส่วนตัวผมเองแบ่งเก็บไว้แค่ 5,000 บาทเท่านั้น เพราะผมยังมีรายได้จากการสอนมวยที่ค่ายอีเกิลมวยไทยด้วยครับ”

คู่ต่อสู้ด่านต่อไปของ “หนุ่มพังงา” ต้องโคจรมาพบกับนักชกสายบู๊เหมือนกันอย่าง “เพชรกาฟิวส์ จิตรเมืองนนท์” ทำให้เจ้าตัวมั่นใจว่ารูปเกมจะต้องออกมาสนุกสุดมันแน่นอน โดยพร้อมสู้สุดใจ หวังเก็บชัยชนะและคว้าโบนัสเป็นครั้งที่สอง เพื่อนำไปปลดหนี้ทุกอย่างให้หมดเพื่อที่ครอบครัวจะได้ไม่ต้องลำบากทำงานหนักอีกต่อไป

“เพชรกาฟิวส์ เป็นมวยที่มีหมัดเป็นลูกอันตราย ผมคิดว่าไฟต์นี้ต้องมีคนโดนนับให้เห็นแน่ๆ ครับ เพราะผมเองไม่ใช่มวยประเภทตั้งรับอยู่แล้ว ถ้าเขาบวกมา ผมพร้อมบวกกลับแน่นอน และถ้าไฟต์นี้ผมได้โบนัสอีก ผมก็จะนำไปปิดหนี้ให้กับครอบครัวให้หมดเลยครับ ถ้าผมปิดหนี้ก้อนนี้ได้สำเร็จ พ่อและแม่ก็ไม่ต้องลำบากทำงานหนักให้มากเหมือนที่ผ่านมาอีกแล้วครับ”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image