เชลซีรอดตัวจากการพ่ายแพ้นัดแรกของฤดูกาลได้หวุดหวิด หลังจากรอส บาร์กลีย์ เป็นฮีโร่ทำประตูชัยท่วงทดเวลาบาดเจ็บให้ทีมไล่ตีเสมอแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หวุดหวิด 2-2 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม
ครึ่งแรกของเกม เชลซีคุมเกมได้มากกว่า ครองบอลได้เหนือกว่า และได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะเตะมุมนาทีที่ 21 เมื่อวิลเลียนเปิดเข้าไปหน้าประตู และอันโตนิโอ รูดิเกอร์ กองหลังชาวเยอรมันหนีการประกบของปอล ป๊อกบา เข้าไปโขกประตูให้เจ้าถิ่นนำ 1-0
จากนั้นครึ่งหลัง โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือปีศาจแดงปรับเปลี่ยนเกมหันมาเน้นเกมรุกและเพรสซิ่งสูงมากขึ้น และประสบความสำเร็จตีเสมอจากอองโตนี่ มาร์ซิยาล ในนาที 55 และมาร์ซิยาล มายิงให้ปีศาจแดงแซงขึ้นนำ 2-1 ในนาที 73 จากจังหวะทำเกมบุกเร็วทางริมเส้นฝั่งขวาของฆวน มาต้า ซึ่งเปิดบอลให้มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ต่อบอลเข้ากลางไปแฉลบจอร์จินโญ่ไปเข้าทางมาร์ซิยาลจนซัดเข้าไป
ขณะที่เกมทำท่าจะลงเอยด้วยการบุกชนะเชลซีของแมนฯยูไนเต็ด สิงห์บลูก็โกงความตายได้สำเร็จจากจังหวะบุกช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+6 ซึ่งดาวิด ลุยซ์ โหม่งไปชนเสา จากนั้นรูดิเกอร์พยายามซ้ำแต่ติดเซฟของดาบิด เด เคอา สุดท้ายบาร์กลีย์เข้าไปซัดตีเสมอได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นเกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้นเมื่อมาร์โก้ ยานนี่ สต๊าฟโค้ชของเมาริซิโอ ซาร์รี่ กุนซือเชลซี เข้าไปแสดงอาการสะใจต่อหน้ามูรินโญ่และม้านั่งสำรองของแมนฯยู ก่อนจะเดินกลับมาอีกครั้งและพูดอะไรบางอย่างกับมูรินโญ่จนกุนซือชาวโปรตุกีสฟิวส์ขาด วิ่งเข้าไปจะเอาเรื่องยานนี่ จนสต๊าฟโค้ชและเจ้าหน้าที่สองฝ่ายต้องพยายามเข้าห้าม ขณะที่บรรยากาศในสนามก็เกิดความตึงเครียดขึ้นจนกรรมการใช้เวลาครู่หนึ่งกว่าจะเริ่มเตะใหม่อีกครั้ง
ผลจากการแข่งขันนัดนี้ทำให้เชลซีมี 21 คะแนน จาก 9 นัด ส่วนแมนฯยูมี 14 คะแนน