“สกาย สปอร์ตส์” สื่อดังของอังกฤษรายงานว่า “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่ในช่วงเจรจาหาสปอนเซอร์คาดอกเสื้อเจ้าใหม่ หลังสัญญากับ “เชฟโรเลต” ผู้ผลิตรถยนต์จากสหรัฐอเมริกา กำลังจะหมดลงในปี 2021 และไม่มีท่าทีต่อสัญญาใหม่ เหตุแบรนด์รถชื่อดังมองว่าภาพลักษณ์ที่ได้กลับมา ไม่คุ้มค่ากับเม็ดเงินที่ลงทุน เพราะปีศาจแดงนั้นมีฟอร์มที่ดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่เชฟโรเลตเซ็นสัญญายาว 7 ปีเป็นสปอนเซอร์คาดอกเสื้อให้แมนฯ ยูไนเต็ดในปี 2014 กับมูลค่า 410 ล้านปอนด์ (15,535 ล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม หลังจากเซ็นสัญญากับเชฟโรเลตเป็นต้นมา แมนฯ ยูไนเต็ด ประสบปัญหาฟอร์มตกอย่างต่อเนื่อง ทั้งการที่ไม่สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษได้อีกเลย รวมถึงยังห่างไกลกับการลุ้นโทรฟี่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกไปเรื่อยๆ ส่วนปัจจุบัน แมนฯยู ภายใต้การคุมทีมของโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ รั้งอันดับ 12 ของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2019-20 โดยมี 9 คะแนนจาก 8 นัดแรก ห่างจากโซนตกชั้นเพียง 2 แต้มเท่านั้น
ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
“เดลี่ เมล์” อ้างแหล่งข่าววงในระบุว่า ผู้บริหารของเจเนรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) บริษัทแม่ของเชฟโรเลตไม่พอใจอย่างมากกับผลงานของปีศาจแดงตลอดช่วงเวลาที่เป็นสปอนเซอร์กันมา จึงทำให้มีแนวโน้มไม่ต่อสัญญาฉบับใหม่ค่อนข้างสูง โดยวงในเผยว่า ดีลระหว่างเชฟโรเลตกับแมนฯยูเป็นหายนะตั้งแต่แรก เพราะความรู้สึกของคนภายในเชฟโรเลตคือพวกเขาจ่ายเงินให้แมนฯยูแพงเกินจริงไปมากๆ และจะไม่มีทางทำแบบนี้อีกต่อไป
หากย้อนไปเมื่อสมัยที่ทั้งสองฝ่ายตกลงดีลกันได้เมื่อปี 2012 โจเอล เอวานิค หัวหน้าฝ่ายการตลาดระดับโลกของจีเอ็ม ถูกไล่ตะเพิดจากตำแหน่งในเวลาเพียง 48 ชั่วโมงหลังจากมีการประกาศดีลคาดอกเสื้อ เนื่องจากผู้บริหารจีเอ็มรู้สึกโกรธมากๆ เมื่อทราบว่าเชฟโรเลตต้องจ่ายแพงว่า เอ-ออน สปอนเซอร์เจ้าเดิม โดยเชฟโรเลตจ่ายปีละ 58.6 ล้านปอนด์, เอ-ออน 2010-14 จ่ายปีละ 19.6 ล้านปอนด์, เอไอจี (2006-10) เฉลี่ยปีละ 14.1 ล้านปอนด์ และโวดาโฟน (2000-2006) ตกปีละ 8 ล้านปอนด์
