‘ลัลลาน่า’ ซูเปอร์ซับ! ซัลโวช่วย ‘ลิเวอร์พูล’ ไล่เจ๊า ‘แมนฯยู’ 1-1 แม้ VAR ไม่เป็นใจ

Photo / Getty Images

“ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีโชคสองชั้นจากวีเออาร์ แต่ทว่าเจอทีเด็ดของทีมเยือน สุดท้ายทำได้เพียงเสมอกับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล 1-1 ไปอย่างสุดระทึก ในศึกแดงเดือดแห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อคืนวันที่ 20 ตุลาคม

เกมนี้ แมนฯยู มาในระบบ 3-4-2-1 : ดาบิด เด เคอา – วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, มาร์กอส โรโฮ (ลงแทนเอ็กเซล ตวนเซเบ้ ที่เจ็บตอนวอร์ม) – อารอน วาน-บิสซาก้า, สก็อต แมคโทมิเนย์, เฟร็ด, แอชลี่ย์ ยัง – อันเดรียส เปเรร่า, ดาเนียล เจมส์ และมาร์คัส แรชฟอร์ด

ขณะที่ ลิเวอร์พูล ระบบ 4-3-3 : อลิสซอน เบ็คเกอร์ – เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจเอล มาติป, เวอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน – จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม – ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และดิว็อก โอริกี้

เกมครึ่งแรกสู้กันได้สนุกสูสี กระทั่งแมนฯยู โชคดีได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะสวนกลับที่ เจมส์ครอสบอลจากริมเส้นให้แรชฟอร์ดสะกิดเข้าประตูไปในนาทีที่ 36 ทั้งที่ก่อนหน้าสวนกลับ ลินเดอเลิฟตัดบอลได้จากการขัดแข้งโอริกี้หน้าบ้าน แต่ มาร์ติน แอตกินสัน เปาหลักของเกม ฟังสัญญาณจากห้องวีเออาร์และยังยืนยันว่าเจ้าบ้านได้ประตู ท่ามกลางเสียงประท้วงของผู้เล่นหงส์แดง และเจอร์เก้น คล็อปป์ เฮดโค้ชทีมเยือน ที่กุมหัวแบบแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง

Advertisement

หลังจากนั้น นาทีที่ 43 ลิเวอร์พูล ที่กำลังหัวร้อน มีโอกาสได้ประตูตีเสมอจากการวางบอลยาวที่มาเน่ จับบอลลงก่อนเบียดชนะลินเดอเลิฟและยิงบอลซุกก้นตาข่าย อย่างไรก็ตาม วีเออาร์ก็ปล่อยของอีกครั้ง เมื่อตัดสินว่ามาเน่ทำแฮนด์บอลจากการจับบอลลงก่อนได้สับไก สุดท้ายจึงถูกริบประตูคืน และจบครึ่งแรกด้วยการออกนำของแมนฯยู 1-0

นาทีที่ 60 คล็อปป์ แก้เกมหนแรก ส่งอเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอเลน ลงเล่นแทนโอริกี้ ที่บทบาทค่อนข้างน้อย จากนั้นนาทีที่ 70 ส่งอดัม ลัลลาน่า แทนที่ของเฮนเดอร์สัน และสุดท้ายส่งนาบี้ เกอิต้า ลงมาเล่นพรีเมียร์ลีกนัดแรกในซีซั่นนี้ แทนไวจ์นัลดุม ขณะที่แมนฯยู เปลี่ยนแรชฟอร์ดออก และให้อ็องโตนี่ มาร์ซิยาล ที่หายเจ็บต้นขากลับมาลงสนามอีกครั้งในนาทีที่ 83

นาทีที่ 85 ความพยายามของหงส์แดงประสบความสำเร็จ เมื่อโรเบิร์ตสัน เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งซ้าย ทะลุมาถึง ลัลลาน่า ทที่เสาไกลได้ยิงจ่อๆ ตุงตาข่าย ช่วยให้ลิเวอร์พูลตีเสมอเป็น 1-1 ในนาทีที่ 85 ซึ่งถือเป็นประตูแรกของลัลลาน่าในรอบ 2 ปีครึ่ง

จากนั้นแมนฯยู ส่งแบรนดอน วิลเลี่ยมส์ ลงเล่นแทน เปเรร่าในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 90+3 ขณะที่ลิเวอร์พูล โหมบุกหนักหวังเอาประตูชัยในช่วงเวลาที่เหลือ แต่สุดท้ายไม่มีประตูเกิดขึ้น

จบเกมเสมอกันสุดระทึก 1-1 แมนฯยู เก็บเพิ่มเป็น 10 แต้มอยู่ที่ 13 ของลีก ขณะที่ลิเวอร์พูล ถูกหยุดสถิติชนะรวดในซีซั่นนี้ลงที่ 8 นัด และ 17 นัดรวดต่อจากซีซั่นก่อน (อดทาบสถิติแมนฯ ซิตี้ชนะรวด 18 นัด) แต่หงส์แดงยังมี 25 แต้ม ครองจ่าฝูงต่อ นำอันดับ 2 อย่างแมนฯ ซิตี้เหลือ 6 แต้ม

ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image