องค์กรผู้ตัดสินแมตช์เกมอาชีพ (พีจีเอ็มโอแอล) หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับผู้ตัดสินในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดเผยถึงเบื้องหลังการพิจารณาจังหวะที่ วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ กองหลัง “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปะทะกับดิว็อก โอริกี้ กองหน้า “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่ไม่มีการริบประตูขึ้นนำของปีศาจแดงคืน ก่อนศึกแดงเดือดจะจบลงด้วยสกอร์ 1-1 เมื่อคืนวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา
แมนฯยู ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะสวนกลับที่ดาเนียล เจมส์ครอสบอลจากริมเส้นให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ยิงจ่อๆ เข้าประตูไปในนาทีที่ 36 ทั้งที่ก่อนหน้าสวนกลับ วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟตัดบอลได้จากการเตะขา ดิว็อค โอริกี้ แต่มาร์ติน แอตกินสัน เปาหลักของเกม ปล่อยให้เล่นต่อ ก่อนฟังสัญญาณจากห้องวีเออาร์และยังยืนยันว่าเจ้าบ้านได้ประตู ท่ามกลางเสียงประท้วงของผู้เล่นหงส์แดง และเจอร์เก้น คล็อปป์ เฮดโค้ชทีมเยือน ถึงกับเอามือกุมหัวแบบแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ก่อนที่สุดท้ายอดัม ลัลลาน่า จะยิงตีเสมอได้สำเร็จในช่วง 5 นาทีสุดท้าย แบ่งแต้มกันไปแบบสุดระทึก
“ประการแรก มาร์ติน แอตกินสัน ผู้ตัดสินหลักในสนามไม่คิดว่านั่นคือการฟาวล์ ซึ่งทีมงานวีเออาร์ก็ได้ตรวจสอบแล้วว่าการตัดสินของเขานั้น ไม่ใช่ความผิดพลาดในการทำหน้าที่อย่างร้ายแรงแต่อย่างใด อีกประการหนึ่งคือ วีเออาร์ไม่ใช่ระบบที่มีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงคำตัดสิน (แค่เช็กการทำหน้าที่ของกรรมการในจังหวะต่างๆ เพื่อแจ้งและปรึกษากับผู้ตัดสินในสนาม) โดยจังหวะนั้นมีการพูดคุยกันจริง (ประตูขึ้นนำ 1-0) แต่สุดท้ายมองว่าไม่มีเหตุผลมากพอในการเปลี่ยนคำตัดสินและริบประตูคืน” องค์กรผู้ตัดสินแมตช์เกมอาชีพ ชี้แจงกับสกาย สปอร์ตส์
ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
This was such a clear foul on #Origi from #Lindelof that you could see it from the moon (watch here https://t.co/ZGMXJwSauh) ???
For some reason, #Atkinson didn't award a foul despite looking straight at it and using VAR ??? pic.twitter.com/iLmipUxXn9
— Livfooty (@Livfooty1) October 20, 2019
