เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือว่างงานชาวอาร์เจนไตน์ เปิดใจกับ “เอพี” ถึงเบื้องหลังการถูก “ไก่เดือยทอง” ท็อตแนม ฮอตเปอร์ ไล่ออกจากตำแหน่ง โดยเข้าใจดีว่าเป็นสาเหตุมาจากโลกธุรกิจฟุตบอลสมัยใหม่ที่มองเรื่องผลการแข่งขันเป็นหลัก และไม่อาจมีเวลารอให้ผู้จัดการทีมได้ลองปรับแก้ไขมากนัก
ก่อนหน้านี้ โปเช็ตติโน่ ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากนับตั้งแต่ย้ายจากเซาแธมป์ตันมาคุมทีมสเปอร์ส โดยยกระดับสโมสรไก่เดือยทองให้ขึ้นมาเป็นทีมบิ๊กเนมของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ด้วยผลงานจบท็อปโฟร์ของลีก 4 ฤดูกาลหลังสุด รวมถึงเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อฤดูกาลที่แล้ว 2018-19 ก่อนพลาดท่าแพ้ลิเวอร์พูล 0-2 เมื่อกลางปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม โปเช็ตติโน่ ไม่สามารถทำให้ลูกทีมรักษามาตรฐานฟอร์มการเล่นที่ดีเอาไว้ได้ จนกระทั่งจมอันดับ 14 ของพรีเมียร์ลีก จากผลงาน 12 นัดแรก ชนะเพียง 3 นัด, เสมอ 5 แพ้ 4 มีแค่ 14 คะแนน โดยดาเนีล เลวี่
“ทุกวันนี้คุณจำเป็นต้องเน้นผลการแข่งขัน เพราะไม่สำคัญอีกแล้วว่าอดีตที่ผ่านมานั้นดีอย่างไร แต่แน่นอนว่านี่คือสิ่งี่ต้องยอมรับ ฟุตบอลตอนนี้มีความแตกต่างจากเดิม การทำธุรกิจก็แตกต่างออกไป และเราจำเป็นต้องปรับตัวให้ทัน ต้องยอมรับและตามให้ทันในวงการลุกหนังยุคใหม่” โปเช็ตติโน่ ระบุ
โปเช็ตติโน่กล่าวอีกว่า ช่วงเวลา 5 ปีครึ่งกับสเปอร์ส ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุข เป็นการผจญภัยที่ดีเยี่ยม ซึ่งตนจะขอเก็บความทรงจำดีๆ ไว้กับตัวต่อไป ตอนนี้ขอใช้เวลาพักผ่อนกับครอบครัวและเพื่อนๆ เพื่อเติมเต็มพลังงานอีกสักระยะ ส่วนเรื่องของอนาคตยังคงเปิดกว้าง
“ในวงการฟุตบอลทุกสิ่งย่อมเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น และในฐานะโค้ชแล้วย่อมอยากไปอยู่ในจุดที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ พรีเมียร์ลีก ยังคงเป็นหนึ่งในลีกที่ดีที่สุดในโลก แต่บนโลกนี้ก็มีอีกหลายลีกเช่นกันที่น่าตื่นเต้นและมีความท้าทายรออยู่” โปเช็ตติโน่ ระบุ
นอกจากนี้ โปเช็ตติโน่ ยังถูกผู้สื่อข่าวเอพีถามถึงเรื่องรถยนต์ “เบนท์ลีย์” ที่เลวี่ ประธานสดมสรสเปอร์ส มอบให้เป็นของขวัญตอบแทนผลงานและความภักดีเมื่อปี 2016 ว่าจะได้ใช้งานต่อหรือต้องส่งมอบคืนนั้น โปเช็ตติโน่กล่าวว่า “ไม่ทราบเหมือนกัน คุณควรจะถามเขา(เลวี่) มากกว่าที่จะมาถามผมนะ เพราะไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้”
