โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ผู้จัดการทีม “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดใจว่าแข้งปีศาจแดงแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่ดีขึ้น หลังจบเกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด บุกแพ้ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล 0-2 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันที่ 19 มกราคม โดยโซลชาร์เชื่อว่าการบุกแพ้ที่แอนฟิลด์แมตช์นี้ ถือเป็นผลงานที่ทำได้ดีกว่าครั้งก่อน ที่โชเซ่ มูรินโญ่ คุมผีแดงบุกแพ้ลิเวอร์พูล 1-3 เมื่อปลายปี 2018 เสียอีก
เกมนี้ ลิเวอร์พูลได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากเวอร์จิล ฟาน ไดค์ โขกลูกเตะมุมตุงตาข่ายนาทีที่ 14 โดยจากนั้นลิเวอร์พูลยังคงครองเกมได้มากกว่า และเกือบจะได้ประตูจากการส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายถึง 2 ครั้ง จากโรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ และ จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม แต่ถูกจับเป็นลูกฟาล์ว และล้ำหน้าก่อนทั้งหมด ทำให้จบครึ่งแรกยังนำอยู่ 1-0
กระทั่งช่วงทดเวลาบาดเจ็บ จากจังหวะเตะมุมของปีศาจแดง บอลไปเข้ามือของอลิสซง เบ็คเกอร์ ก่อนจะเปิดยาวให้กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ควบตั้งแต่ครึ่งสนามก่อนจะเบียดกับแดเนียล เจมส์ ที่วิ่งลงมาประกบแล้วยิงลอดขาเด เคอา เข้าประตูไป เป็นประตูแรกที่สามารถยิงใส่แมนฯ ยูไนเต็ดได้ และเป็นประตูตอกฝาโลงให้ หงส์แดง เอาชนะ ปีศาจแดง ไปได้ 2-0 ทำให้ลิเวอร์พูล เก็บเพิ่มเป็น 64 คะแนน จาก 22 นัด ทิ้งห่างอันดับ 2 “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 16 คะแนน และลงเตะน้อยกว่า 1 นัด ส่วนปีศาจแดงยังอยู่อันดับ 5 มี 34 คะแนนจาก 23 นัด
“ลิเวอร์พูลถาโถมโจมตีใส่พวกเราทุกวิถีทาง ทำให้แนวรับของเราต้องใช้สมาธิอย่างมากเพื่อรับมือ อย่างไรก็ตาม ผลงานของแมนฯ ยูไนเต็ดที่แอนฟิลด์ในวันนี้ ถือว่าทำได้ดีกว่าการบุกมาเยือนที่สนามแห่งนี้เมื่อฤดูกาลที่แล้วเสียอีก (ดีกว่าที่มูรินโญ่เคยพาผีแดงบุกแพ้ 1-3 เมื่อปลายปี 2018)” โซลชาร์ ระบุ
"They're the most direct team in the league. They do put teams under pressure. Play them long balls, second balls, corners."
Despite falling 30 points behind Liverpool, Ole Gunnar Solskjaer was encouraged by Manchester United's performance at Anfield. pic.twitter.com/XLdECVQq7A
— Sky Sports Premier League (@SkySportsPL) January 19, 2020
ทั้งนี้ ศึกแดงเดือดเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2018 นับเป็นการคุมทีมปีศาจแดงครั้งสุดท้ายของมูรินโญ่ เนื่องจากถูกบอร์ดบริหารสั่งปลดในอีก 2 วันถัดมา ก่อนจะหวนมารับงานในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับท็อตแนม ฮอตสเปอร์ มาตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2019 เป็นต้นมา
