‘พรีเมียร์ลีก’ ระงับแข่งไม่มีกำหนด – เสนอหั่นค่าแรงนักเตะ 30 เปอร์เซ็นต์
จากการประชุมระหว่างพรีเมียร์ลีกกับสโมสรต่างๆ ทั้ง 20 ทีมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เมื่อวันศุกร์ที่ 3 เมษษยน ได้บทสรุปว่าศึกพรีเมียร์ลีกจะระงับการแข่งขันออกไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังไม่คลี่คลาย
ก่อนหน้านี้ พรีเมียร์ลีก เคยมีมติงดโม่แข้งไปจนถึงวันที่ 30 เมษายนเป็นอย่างน้อย แต่จากการประชุมครั้งล่าสุดในวันนี้ พวกเขาต่างเห็นพ้องตรงกันว่าเดือนพฤษภาคมน่าจะยังไม่ปลอดภัยพอที่จะกลับมาแข่งขัน จึงเลื่อนออกไปแบบไม่มีกำหนด พร้อมระบุว่าจะกลับมาฟาดแข้งกันอีกครั้งก็ต่อเมื่อประเมินแล้วว่าสถานการณ์ทุกอย่างอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย และเหมาะสมที่จะแข่งขัน โดยวันหวนโม่แข้งนั้นจะคอยพิจารณาและทบทวนอย่างต่อเนื่องอีกครั้งตามคำแนะนำของรัฐบาลและสาธารณสุขอังกฤษ
บรรดาสโมสรในพรีเมียร์ลีกต่างแสดงความต้องการแข่งขันกันต่อตามโปรแกรมจนกระทั่งจบฤดูกาล เพราะไม่เช่นนั้นจะต้องสูญเสียรายได้มหาศาล โดยเฉพาะลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดที่ควรได้รับจากสถานีโทรทัศน์ ขณะเดียวกัน สโมสรในพรีเมียร์ลีก ต่างเห็นด้วยกับแนวคิดหักค่าเหนื่อยนักเตะ 30 เปอร์เซ็นต์ ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 โดยจะนำไปปรึกษากับสมาคมนักเตะอาชีพอังกฤษ (พีเอฟเอ) อีกครั้งในวันเสาร์นี้ตามเวลาท้องถิ่นของอังกฤษ
นอกจากนี้มีรายงานว่า พรีเมียร์ลีก เตรียมมอบเงิน 125 ล้านปอนด์ (ประมาณ 5,000 ล้านบาท) เพื่อช่วยเหลือบรรดาสโมสรต่างๆ ในอีเอฟแอล (เดอะ แชมเปี้ยนชิพ, ลีกวัน, ลีกทู) กับเนชั่นแนล ลีก หรือ ลีกคอนเฟอเรนซ์ (กึ่งอาชีพ-รองจากลีกทู) นอกจากนี้ ยังมอบอีก 20 ล้านปอนด์ (ราว 80 ล้านบาท) ให้กับระบบดูแลสุขภาพแห่งชาติ (เอ็นเอชเอส) เพื่อช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ที่กำลังต่อสู้กับโควิด-19
The Premier League’s overriding priority is to aid the health and wellbeing of the nation and our communities. The 2019/20 season will only return when it is safe and appropriate to do so.
Full statement: https://t.co/Tv9Leq4GGp#WeAreOneTeam pic.twitter.com/XPLQ7ls422
— Premier League (@premierleague) April 3, 2020
A meeting of Premier League clubs has decided that a £20m donation will be made to the NHS, with £125m also being given to the EFL and National League.
It has also been confirmed that talks are ongoing with players about a 30 per cent cut in wages
— Sky Sports News (@SkySportsNews) April 3, 2020