คอลัมน์เกรียนเขียนบอล : มากกว่าการเป็นแชมป์

คอลัมน์เกรียนเขียนบอล : มากกว่าการเป็นแชมป์

ฟุตบอลเอฟเอคัพ อังกฤษ ได้คู่ชิงชนะเลิศแล้ว เชลซี ตบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-1 เข้าไปเจอกับ อาร์เซน่อล  ที่พลิกเขี่ย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-0

การมาเจอกันในรอบชิงชนะเลิศของคู่นี้น่าสนใจตรงที่ มิเกล อาร์เตต้า เพิ่งเข้ามาคุมอาร์เซน่อลเป็นซีซั่นแรก เช่นเดียวกับ แฟรงก์ แลมพาร์ด ที่รับงานเชลซีเป็นฤดูกาลแรกเช่นกัน แรงจูงใจในการหยิบแชมป์แรกให้กับสโมสรย่อมต้องมีมากกันทั้งคู่

แลมพาร์ดอาจจะทำทีมได้ไม่หวือหวานัก เพราะเชลซีแพ้ได้ทุกทีม และชนะได้แม้แต่ทีมใหญ่ แต่ต้องไม่ลืมว่าทีมสิงโตน้ำเงินครามรั้งอันดับ 3 ในตารางพรีเมียร์ลีก เป็นรองเพียงลิเวอร์พูลกับแมนฯซิตี้เท่านั้น แถมยังได้เข้าชิงบอลถ้วย เรียกได้ว่าเป็นขวบปีแรกที่ประสบความสำเร็จทีเดียว

อาร์เตต้าเข้ามารับงานกลางศึก แทน อูไน เอเมอรี่ ผลงานในเกมลีกอาจจะไม่ค่อยเข้าตา แต่การพาทีมปืนใหญ่มาถึงรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วยได้ ก็ทำให้แฟนบอลปืนใหญ่หวังอะไรในตัวเขาได้มากกว่าที่คิด

Advertisement

ทั้งสองคนเป็นกุนซือยุคใหม่ ที่ได้รับโอกาสในการเข้ามคุมทีมที่ตัวเองเยค้าแข้งด้วย ทำให้รู้ปรัชญาและแนวทางของทีมดี เหมือนที่แมนฯยูตั้ง โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ มาทำหน้าที่นี้ เพราะมันไม่ต้องจูนเครื่องในเรื่องความสัมพันธ์กับคนในสโมสรมากมาย และการเป็นหนึ่งในตำนานของสโมสร ก็เรียกความศรัทธาจากลูกทีมได้ในระดับหนึ่ง

รอบชิงชนะเลิศ เอฟเอคัพ ที่เวมบลีย์ จะเป็นเกมที่ดุเดือดตามสไตล์ “ลอนดอน ดาร์บี้” แค่เกมพรีเมียร์ลีกก็สนุกแล้ว แต่นัดนี้มีเดิมพันเป็นถ้วยแชมป์ และเป็นแชมป์แรกที่สองผู้จัดการทีมอยากจะได้เพื่อเรียกความมั่นใจให้ตัวเอง

ยิ่งมองผลงานในรอบรองชนะเลิศที่ทั้งสองทีมต่างปราบทีมใหญ่จากแมนเชสเตอร์ได้ทั้งคู่ ทั้งๆ ที่สถิติหลายอย่างเป็นรอง ไม่ค่อยมีใครคิดว่ารอบชิงจะเป็นสองทีมจากลอนดอนมาเจอกันเอง

Advertisement

แรงจูงใจของอาร์เซน่อลในแชมป์รายการนี้ถือว่ามีมากกว่า เพราะยังไม่แน่ว่าเขาพวกเขาจะทำอันดับไปเล่นยูโรป้าลีกได้ ดังนั้นการได้แชมป์เอฟเอคัพ จะเป็นโบนัสมอบตั๋วให้พวกเขาเข้าไปเล่นรอบแบ่งกลุ่มถ้วยรองของยุโรปในฤดูกาลหน้าได้อีก ส่วนเชลซีโอกาสจบท็อป 4 มีอยู่ไม่น้อย ให้แย่สุดสุดก็คงจบที่ 5 ไปเล่นยูโรป้าแน่นอน

ทีมปืนใหญ่มีศักดิ์ศรีการเป็นแชมป์เอฟเอคัพมากที่สุดในบรรดาสโมสรของอังกฤษ คือ 13 ครั้ง และ 6 ปีหลังสุด เข้าชิงถึง 3 ครั้ง และไม่เคยพลาด ส่วนเชลซีชิง 2 ครั้ง ใน 3 ปีหลังสุด ได้มา 1 ครั้ง และอีกครั้งแพ้อาร์เซน่อล เมื่อฤดูกาล 2016-2017 ก่อนจะมาคว้าแชมป์ด้วยการชนะแมนฯยู ในฤดูกาลต่อมา

ไม่ว่าใครได้แชมป์ ก็จะเป็นการเรียกกำลังใจที่ดีให้กับสโมสรเพื่อกลับมายิ่งใหญ่ในฤดูกาลหน้า แต่กำไรตกเป็นของแฟนบอลมากที่สุด เพราะจะได้เห็นความมันของเกมนี้

1 สิงหาคม ตัดสินกันว่า ทีมไหนจะเป็นแชมป์เอฟเอคัพในยุคโควิด-19

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image