วงในแฉแม็กไกวร์หวั่นโดนโรนัลโด้แย่งปลอกแขนกัปตันทีมถาวร
หนังสือพิมพ์ “เดลี่ มิร์เรอร์” ของอังกฤษ อ้างแหล่งข่าววงในของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่า ได้เกิดความขัดแย้งภายในเกี่ยวกับตำแหน่งกัปตันทีม เนื่องจากแฮร์รี่ แม็กไกวร์ กองหลังวัย 28 ปี เจ้าของปลอกแขนคนปัจจุบัน โดนวิจารณ์อย่างหนักตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาว่า ฟอร์มไม่ดี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะได้รับปลอกแขนกัปตันทีมเร็วเกินไป หลังจากเพิ่งย้ายร่วมทีมได้ไม่นาน ทำให้เกิดความกดดัน แทนที่จะได้โฟกัสที่การเล่นของตัวเองอย่างเดียว ขณะเดียวกัน เนื่องจากเขาเพิ่งย้ายร่วมทีมได้ไม่นาน จึงยังไม่ได้มีแนวคิดหรือ “ดีเอ็นเอ” ของทีมปีศาจแดงแบบฝังรากลึก ยังขาดบารมี ทำให้ยังทำหน้าที่กัปตันทีมไม่เต็มที่
รายงานข่าวระบุว่า ราล์ฟ รังนิค กุนซือชั่วคราวของแมนฯยู ได้เรียกแม็กไกวร์กับคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตำนานสโมสรที่กลับไปค้าแข้งกับทีมอีกครั้งร่วมหารือกัน เพื่อยกปลอกแขนกัปตันทีมให้โรนัลโด้ทำหน้าที่แทนจนจบฤดูกาล เป็นการลดแรงกดดันของแม็กไกวร์ และเพื่อให้โรนัลโด้ทำหน้าที่ที่ปรึกษาคอยให้คำแนะนำแข้งรุ่นน้องในทีม โดยเฉพาะเจดอน ซานโช่, สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์, มาร์คัส แรชฟอร์ด
อย่างไรก็ตาม แม็กไกวร์ลังเลที่จะทำตามความคิดของรังนิค เพราะหวั่นว่าจะเสียตำแหน่งกัปตันแบบถาวร อีกทั้งยังมีรายงานว่า เขาไม่ค่อยแฮปปี้ที่โรนัลโด้เริ่มแสดงบทบาทความเป็นผู้นำในห้องแต่งตัวมากขึ้น โดยเฉพาะกับนักเตะดาวรุ่ง จนแม็กไกวร์กลัวว่าเพื่อนร่วมทีมจะไม่ให้ความเคารพตัวเองอีกต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า นักเตะหนุ่มของทีมอยู่ในสถานการณ์กระอักกระอ่วน เพราะทางหนึ่งก็อยากซื่อสัตย์กับแม็กไกวร์ในฐานะกัปตันทีม แต่ขณะเดียวกันก็ยอมรับว่าโรนัลโด้มีอิทธิพลในห้องแต่งตัวอย่างมาก ส่วนตัวโรนัลโด้เอง ช่วงแรกยังหนุนแม็กไกวร์ให้ทำหน้าที่กัปตันทีมอยู่ แต่ช่วงหลังเริ่มเสียงอ่อนลงในเรื่องนี้
ก่อนหน้านี้ นักข่าวของ “บิลด์” รายงานว่า แม็กไกวร์ไม่แฮปปี้ที่โรนัลโด้มีอิทธิพลในห้องแต่งตัวมากขึ้นเรื่อยๆ จนแรชฟอร์ดต้องออกมาตอบโต้ทางทวิตเตอร์ว่า หยุดสร้างความแตกแยกได้แล้ว
ขณะที่ตำนานสโมสรอย่างแกรี่ เนวิลล์ ซึ่งทำหน้าที่นักวิจารณ์ ออกมาโวยก่อนหน้านี้ว่า รู้ว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวเรื่องความขัดแย้งภายในทีม ควรจะเลิกทำแบบนี้ เพราะไม่เป็นผลดีกับทีม
ส่วนริโอ เฟอร์ดินานด์ อดีตกองหลังปีศาจแดงอีกราย กล่าวว่า เชื่อว่าคนปล่อยข่าวเป็นคนใกล้ชิดนักเตะอย่างครอบครัวหรือเอเยนต์ ถ้าเป็นยุคเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ใครปล่อยข่าวภายในออกไปแบบนี้ คงโดนลงโทษแน่ๆ
