ลูก้า โมดริช กองกลางทีมชาติโครเอเชีย และของ “ราชันชุดขาว” รีล มาดริด คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยม หรือ “บัลลงดอร์” ประจำปี 2018 ไปครอง และยังเป็นนักเตะคนแรกในรอบ 10 ปี ที่สามารถเอาชนะ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับ ลิโอเนล เมสซี่ 2 นักเตะผู้ผลัดกันครองรางวัลมาตลอดในช่วงหลังได้สำเร็จ
กองกลางทีมชาติโครเอเชีย ในวัย 33 ปี คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 ก่อนที่จะสร้างประวัติศาสตร์พาทีมชาติเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2018 และจบลงด้วยตำแหน่งรองแชมป์ ซึ่งกลายเป็นผู้เล่นคนแรกต่อจาก ริคาร์โด้ กาก้า อดีตแนวรุกทีมชาติบราซิล ซึ่งเป็นคนสุดท้ายที่คว้ารางวัลนี้เมื่อปี 2007 ก่อนจะถูกโรนัลโด้และเมสซี่ครองความยิ่งใหญ่มาตลอด
ในส่วนของโรนัลโด้ ที่ย้ายจากรีล มาดริด ไปอยู่กับ “ม้าลาย” ยูเวนตุส นั้นคว้าอันดับ 2 ไปครอง ตามมาด้วย 2 กองหน้าฝรั่งเศส อ็องตวน กรีซมันน์ ของ “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด และคีเลียน เอ็มบัปเป้ ของปารีส แซงต์ แชร์แม็ง ที่คว้าอันดับ 3 และ 4 ตามลำดับ ส่วนทางด้านของเมสซี่นั้นได้เพียงอันดับที่ 5 เท่านั้น
นับเป็นรางวัลส่วนตัวรางวัลที่ 3 ของโมดริชในปีนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) รวมไปถึงรางวัลโกลเด้น บอล หลังจากจบการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย
โมดริช กล่าวหลังได้รับรางวัลว่า ในอดีตที่ผ่านมาอาจจะมีผู้เล่นหลายคนที่สมควรได้รับรางวัลนี้แต่พลาดไปอย่างเช่น ชาบี้ เอร์นานเดซ, อันเดรียส อิเนียสต้า หรือว่าเวสลีย์ ชไนเดอร์ แต่ในที่สุดทุกคนก็เริ่มมองหาคนอื่นได้เสียที ซึ่งรางวัลนี้เป็นของทุกคนที่เหมาะสมที่จะชนะแต่กลับไม่ได้รับ เป็นปีที่ยอดเยี่ยมมากสำหรับตัวเอง มันยากมากที่จะอธิบายความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้ ถือว่าเป็นเรื่องที่พิเศษมากๆ สำหรับตัวเอง
ส่วนการเอาชนะเมสซี่และโรนัลโด้นั้น โมดริช บอกว่า “ทั้งสองคนยังคงเป็นผู้เล่นที่มหัศจรรย์ การที่ผมเอาชนะได้นั่นหมายความว่าปีนี้ผมได้ทำอะไรที่พิเศษมากๆ และนั่นคือเหตุผลที่ทำไม่ปี 2017-18 จึงเป็นปีของผม”
ขณะที่รางวัลฝ่ายหญิงตกเป็นของ อดา เฮเกอร์เบิร์ก กองหน้าวัย 23 ปี ของทีมชาตินอร์เวย์และโอลิมปิก ลียง ส่วนทางด้านเอ็มบัปเป้ ในวัย 19 ปี ก็ได้รับรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยม ซึ่งถูกเลือกจากอดีตผู้ได้รับรางวัลบัลลงดอร์
10 อันดับแรกของบัลลงดอร์ 2018
1. ลูก้า โมดริช (รีล มาดริด, โครเอเชีย)
2. คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (ยูเวนตุส, โปรตุเกส)
3. อ็องตวน กรีซมันน์ (แอต.มาดริด, ฝรั่งเศส)
4. คีเลียน เอ็มบัปเป้ (เปแอสเช, ฝรั่งเศส)
5. ลิโอเนล เมสซี่ (บาร์เซโลน่า, อาร์เจนตินา)
6. โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล, อียิปต์)
7. ราฟาเอล วาราน (รีล มาดริด, ฝรั่งเศส)
8. เอเด็น อาซาร์ (เชลซี, เบลเยียม)
9. เควิน เดอ บรอยน์ (แมนฯ ซิตี้, เบลเยียม)
10. แฮร์รี่ เคน (สเปอร์ส, อังกฤษ)
