เมาริซิโอ ซาร์รี่ กุนซือ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ออกมาปกป้อง ‘จอร์จินโญ่’ มิดฟิลด์ตัวรับชาวอิตาลีเชื้อสายบราซิล หลังถูกแฟนบอลรุมโห่ในเกมที่เปิดบ้านถล่มมัลโม่ จากสวีเดน 3-0 ในศึกยูฟ่า ยูโรป้าลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อคืนวันที่ 21 กุมภาพันธ์
สำหรับผลการแข่งขันนัดดังกล่าว ทำให้เชลซีผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยสกอร์รวมสองนัด 5-1 อย่างไรก็ตามแฟนบอลสิงห์บลูต่างแสดงท่าทีและความรู้สึกไม่ปลื้มต่อมิดฟิลด์วัย 27 ปี โดยมองว่าได้ลงเล่นต่อเนื่องทั้งที่ฟอร์มไม่ดีจนส่งผลกระทบต่อทีม ด้วยการส่งเสียงโห่ใส่จอร์จินโญ่ ที่ถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองแทนที่ของรอสส์ บาร์คลี่ย์ กองกลางชาวอังกฤษ ในนาทีที่ 76 แต่ซาร์รี่ยังคงเชื่อว่ากองกลางรายนี้ยังเป็นนักเตะคนสำคัญที่ทีมขาดไม่ได้
“ผมคิดว่าในช่วง 30 นาทีแรกเราทุกคนน่าจะเข้าใจดีว่าจอร์จินโญ่สำคัญกับทีมมากแค่ไหน เพราะตอนนั้นเราตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากในการแก้เพรสซิ่ง ซึ่งเมื่อมีเขาอยู่ในทีมย่อมทำได้ง่ายขึ้นกว่าแน่นอน และผมหวังว่าแฟนบอลจะเปิดใจยอมรับว่าจอร์จินโญ่เป็นนักเตะที่สำคัญสุดสุดของเชลซี” ซาร์รี่กล่าว
ซาร์รี่ กล่าวถึงรูปเกมวันนี้ว่า แข้งสิงห์บลูเล่นแบบไร้ความมั่นใจในช่วงครึ่งชั่วโมงแรก น่าหงุดหงิดจริงๆ พวกเราไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วเท่าที่ควร รวมถึงถูกกดดันจากการเพรสซิ่งอย่างหนัก แต่ในช่วง 15 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก สถานการของทีมก็ดีขึ้น และหลังจากได้ประตูที่ 1 ทุกคนก็เล่นได้ดีมากๆ เริ่มผ่านบอลได้รวดเร็วและมีความมั่นใจมากขึ้น แต่แมตช์นี้ก็เป็นงานที่ไม่ง่ายเลย จึงพอเข้าใจนักเตะดี ที่เล่นยังไม่เข้าที่เข้าทางเท่าไรในช่วง 30 นาทีแรก
สำหรับศึกคาราบาวคัพรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งเชลซีจะต้องฟาดฟันกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในคืนวันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์นี้นั้น ซาร์รี่ยอมรับว่าหากลูกทีมเล่นในช่วงต้นเกมได้ไม่ดีเช่นเดียวกับแมตช์กับมัลโม่ ย่อมกลายเป็นหายนะอย่างแน่นอน เพราะเชลซีจะไม่สามารถเล่นฟุตบอลในสไตล์ของตัวเองได้หากปราศจากความมั่นใจ
ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
