“เปแอสเช” ปารีส แซงต์แชร์แมง สโมสรยักษ์ใหญ่ในลีกเอิง ฝรั่งเศส ประกาศแยกทางกับ จานลุยจิ บุฟฟ่อน ผู้รักษาประตูชาวอิตาลีวัย 41 ปี หลังจากที่สัญญาของนายด่านดีกรีแชมป์โลกกับทีมมหาเศรษฐีเมืองน้ำหอมจะหมดลงในช่วงซัมเมอร์นี้ จากการแถลงการณ์ของทีมดังเมืองน้ำหอมเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน
“หลังจากที่เราได้มีการปรึกษาหารือกันจึงได้ข้อสรุปว่า ปารีส แซงต์แชร์แมงและจานลุยจิ บุฟฟ่อน บรรลุข้อตกลงเรียบร้อยเกี่ยวกับการไม่ต่อสัญญาฉบับใหม่ แทนที่ฉบับปัจจุบันซึ่งกำลังจะหมดสัญญาในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ ซึ่งสโมสรเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก” เปแอสเชแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ของสโมสร
ขณะที่ “โกล ดอทคอม” สำนักข่าวต่างประเทศชื่อดัง ได้รายงานว่า บุฟฟ่อนได้โพสต์อินสตาแกรมส่วนตัวชี้แจงถึงการแยกทางดังกล่าวว่า “ปารีสฯ ได้ยื่นข้อเสนอในสัญญาฉบับใหม่ที่ผมไม่อาจยอมรับได้ลง และนั่นคือแรงผลักดันที่ทำให้ตัวผมพร้อมที่จะออกเดินทางค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆ และความท้าทายในระดับมืออาชีพต่อไป”
อย่างไรก็ตามบุฟฟ่อนได้ลบข้อความข้างต้นทิ้งไป โดยเนื้อหาที่เหลืออยู่มีใจความคร่าวๆ ว่า “12 เดือนที่แล้วผมมาเยือนที่ปารีสฯ เพิ่มเติมเต็มความกระหาย ซึ่งมีการต้อนรับจากแฟนๆที่ยอดเยี่ยมเหลือเชื่อ และตอนนี้ถึงเวลาที่ผมต้องจากสโมสรไป ประสบการณ์ที่ได้จากที่แห่งนี้ทำให้ผมเติบโตขึ้นอีกเยอะเลย ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งที่ทำให้ผมได้มีโอกาสเก็บประสบการณ์ในปารีส และขอบคุณสำหรับความรู้สึกที่เราได้ร่วมแบ่งปันกันตลอดมา ขอบคุณจริงๆ จากก้นบึ้งของหัวใจ วันนี้การผจญภัยนอบ้านเกิดของผมได้จบลงแล้ว”
สำหรับบุฟฟ่อน มือกาวชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 2006 ยุติเส้นทาง 17 ปี 656 นัดกับ “ม้าลาย” ยูเวนตุส ด้วยการย้ายร่วมทีม “เปแอสเช” เมื่อฤดูกาล 2018-19 แบบไร้ค่าตัวหลังหมดสัญญา โดยได้ลงสนามไปทั้งสิ้น 25 นัดในทุกรายการ เสีย 25 ประตู เก็นคลีนชีตได้ 9 แมตช์ โดยในจำนวนนี้เป็นการเฝ้าเสาในเกมลีกเพียง 17 นัดจากทั้งหมด 38 นัด เนื่องจากโทมัส ทูเคิล กุนซือเปแอสเช มักใช้งาน อัลฟอนซ์ อาเรโอล่า นายด่านเลือดน้ำหอมวัย 26 ปีลงสนามเป็นหลัก
โดยบุฟฟ่อน คว้าแชมป์ลีกเอิง ฝรั่งเศส 1 สมัยและ โทรเฟ่ เดส์ ช็องปิยงส์ (ซุปเปอร์คัพ ฝรั่งเศส) 1 สมัย ร่วมกับเปแอสเช ตลอดการร่วมงานกัน 1 ซีซั่นที่ผ่านมา
A gentleman on and off the pitch and an extraordinary teammate. We wish you the best for the future ❤️?
Ciao e grazie per tutto, @gianluigibuffon ? pic.twitter.com/exaPtHRdiW
— Paris Saint-Germain (@PSG_English) June 5, 2019