“ตราหมี” แอตเลติโก้ มาดริด แซงชนะ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า แบบสุดระทึก 3-2 ในศึกสแปนิช ซูเปอร์คัพ รอบรองชนะเลิศ ที่สนามคิง อับดุลลาห์ สปอร์ตส์ ซิตี้ ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อคืนวันที่ 9 มกราคม
แอตฯ มาดริด เป็นฝ่ายขึ้นนำก่อน 1-0 จากโกเก้ นาที 46 ต่อมาบาร์ซ่าได้ 2 ประตูรวดจากลิโอเนล เมสซี่ นาที 51 และอองตวน กรีซมันน์ นาที 62
นอกจากนี้ บาร์เซโลน่ายังชวดได้ประตูขึ้น 3-1 ถึงสองครั้ง เนื่องจากวีเออาร์สั่งริบคืนลูกยิงของเมสซี่ เนื่องจากแฮนด์บอล (นาที 59) และลูกชาร์จเผาขนของ เกราร์ด ปิเก้ ที่โดนจับล้ำหน้า (นาที 74)
สุดท้ายแอตฯ มาดริด พลิกสถานการณ์ยิงแซง 2 ลูกรวดจากอัลวาโร่ โมราตา ยิงจุดโทษตีเสมอ 2-2 นาที 81 ต่อด้วยอังเคล คอร์เรอา ยิงในนาที 86 ช่วยให้ แอตฯ มาดริด พลิกนรกแซะชนะ บาร์เซโลน่า 3-2
ส่งผลให้แอตฯ มาดริด ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศศึกสแปนิช ซูเปอร์คัพกับ “ราชันชุดขาว” รีล มาดริด ในคืนวันที่ 12 มกราคมนี้ หลังราชันชุดขาวชนะบาเลนเซีย 3-1 รอบตัดเชือกเมื่อคืนวันที่ 8 มกราคม
โดยปีนี้ ศึกสแนิช ซูเปอร์คัพ ได้มีการปรับรูปแบการแข่งขัน คัด 4 ทีมมาแข่งขันซึ่งมาจากทีมแชมป์และรองแชมป์ ลาลีก้า สเปน บวกกับ ทีมแชมป์กับรองแชมป์ โคปา เดลเรย์ ฤดูกาลที่ผ่านมามาเตะตัดเชือกกัน เพื่อหาทีมเข้าชิงชนะเลิศ และย้ายไปฟาดแข้งที่สนามกลางในประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งคาดกันว่าสมาคมฟุตบอลสเปนฯ รับทรัพย์ไปกว่า 40 ล้านยูโร หรือราว 1,345 ล้านบาท
ด้านผลการแข่งขันที่น่าสนใจคืนวันเดียวกัน โตริโน่ เสมอ เจนัว 1-1 ก่อนที่โตริโน่จะชนะจุดโทษ 5-3 ทะลุเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายศึกโคปปา อิตาเลียสำเร็จ
