คาร์ล ไฮนซ์ รุมมินิกเก้ ประธานสโมสร “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค จวกพฤติกรรมแฟนบอลกลุ่มหนึ่งของสโมสรตัวเอง ที่ชูป้ายผ้าพร้อมข้อความหยาบคายเพื่อโจมตีดีทมาร์ ฮ็อปป์ มหาเศรษฐีชาวเยอรมัน เจ้าของสโมสรฮออฟเฟ่นไฮม์ ในเกมบุนเดสลีก้า เยอรมนี ที่สนามปรีซีโร่ อารีนา เมื่อคืนวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ซึ่งเกมนี้บาเยิร์นบุกชนะขาดลอย 6-0
สำหรับเหตุการณ์ที่เป็นปัญหาเกิดขึ้นในนาทีที่ 65 เมื่อแฟนบอลบาเยิร์น ชูป้ายผ้าที่มีข้อความว่า “ดีทมาร์ ฮ็อปป์ แกเป็นลูกกะ…” จนทำให้ผู้ตัดสินเป่าหยุดเกมชั่วคราวราว 15 นาที เพื่อให้ปัญหานี้ถูกจัดการ ก่อนกลับมาแข่งขันต่อ แต่แฟนบอลทีมเยือนยังชูป้ายนั้นอีกครั้งในนาทีที่ 77 ผู้ตัดสินจึงเป่าหยุดเกมเป็นหนที่ 2 จนสต๊าฟและผู้บริหารของบาเยิร์น ซึ่งรวมถึงโอลิเวอร์ คาห์น อดีตผู้รักษาประตูชื่อดัง ต้องมาขอร้องแฟนบอลให้ปลดป้ายผ้าออก และหยุดจุดพลุแฟลร์ในสนาม นักเตะต้องกลับเข้าไปในห้องแต่งตัว แต่ไม่นานก็กลับมาเตะได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตามนักเตะทั้งสองทีมเคาะบอลไปมา ไม่พยายามที่จะเปิดเกมแข่งกัน เป็นการประท้วงแฟนบอลที่ทำพฤติกรรมไม่ดีก่อนหน้านี้ หมดเวลา 90 นาที (คลิกชมคลิป)
รุมมินิกเก้ กล่าวว่า เป็นเรื่องน่าละอายมากๆ สำหรับการกระทำที่น่ารังเกียจเช่นนี้ ตนอยากจะขอโทษฮ็อปป์จากใจจริง ส่วนตัวแล้วรู้จักกับฮ็อปป์ มานานกว่า 20 ปี เขาทำเพื่อสโมสรและสังคมมามาก ซึ่งหวังว่าแฟนบอลเหล่านั้นจะได้รับการลงโทษ พวกเขาไม่สมควรจะได้เข้าชมเกมในสนามอีกต่อไป
เหตุการณ์นี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฮ็อปป์ โดนแฟนบอลทีมคู่แข่งแสดงการต่อต้าน เพราะก่อนหน้านี้ ฮ็อปป์เคยโดนแฟนบอลของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และมุนเช่นกลัดบัคโจมตีมาแล้วเช่นกัน ซึ่งสาเหตุที่ฮ็อปป์ ถูกต่อต้านจากแฟนบอลในเยอรมนี นั้น เป็นเพราะฮ็อปป์ จงใจอัดฉีดและลงทุนมหาศาลพาทีมฮอฟเฟ่นไฮม์จนทำให้ฮอฟเฟ่นไฮม์เติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งฮ็อปป์ฮุบสโมสรโดยมีหุ้นเหนือแฟนบอล สวนทางกับกฎ 50+1 ที่้ตั้งขึ้นเพื่อให้แฟนบอลเป็นเจ้าของสโมรด้วยการถือหุ้นอย่างน้อย 51 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเอกชนสามารถถือหุ้นได้สูงสุด 49 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งเป็นกฎที่เป็นเอกลักษณ์ของฟุตบอลเยอรมนี อย่างไรก็ตาม ฮ็อปป์ ได้อาศัยกฎที่ระบุว่าบริษัทเอกชนสามารถเป็นเจ้าของสโมสรได้ หากถือหุ้น 49 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป ซึ่งเขาถือหุ้นครบตามกำหนดเมื่อปี 2014 และทำการกวาดซื้อหุ้นอีก 51 เปอร์เซ็นต์กลับมา หลังเคยถือครองหุ้นแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่สมัยซื้อทีมเมื่อปี 1994 ก่อนจะมีกฎ 50+1 ออกมาในปี 1998 จนต้องขายหุ้นออกไป
การได้ถือหุ้นของฮ็อปป์ ทำให้แฟนบอลชาวเยอรมันแสดงความต่อต้าน เพราะพวกเขาไม่ต้องการเห็นนักลงทุนทั้งหลายครอบครองสโมสรเหนือแฟนบอล เพราะเชื่อว่าคนเหล่านี้หวังเข้ามาเพื่อกอบโกยผลประโยชน์จากสโมสรมากกว่าจะมองเรื่องฟุตบอล โดยนอกจากฮอฟเฟ่นไฮม์แล้ว มีอีกเพียง 2 สโมสรเท่านั้นที่ได้รับการยกเว้น คือเลเวอร์คูเซ่นกับโวล์ฟบวร์ก ที่มีไบเออร์ กับ โฟล์กสวาเก้น เป็นเจ้าของตามลำดับ โดยถือหุ้น 100 เปอร์เซ็นต์มาหลายสิบปีก่อนตั้งกฎ จึงเข้าเกณฑ์ข้อยกเว้น อย่างไรก็ตาม 2 ทีมนี้ก็ถูกต่อต้านจากแฟนบอลทีมอื่นๆ เช่นกัน
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
