ซีเอเอสแจงเหตุยกเลิกแบนแมนฯซิตี้ ชี้ 9 ทีมผู้ดีเคยยื่นค้านแมนฯ ซิตี้ลุย ชปล.จริง
ศาลอนุญาโตตุลาการกีฬาโลก (ซีเอเอส) ออกแถลงสาเหตุที่มีมติกลับคำตัดสินโทษแบนห้ามร่วมแข่งขันฟุตบอลถ้วยยุโรป 2 ปี ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กรณีถูกโดนสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ลงดาบข้อหาทำผิดกฎควบคุมการเงิน (ไฟแนนเชียล แฟร์เพลย์)
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ยูฟ่าอ้างว่า แมนฯ ซิตี้ รับเงินเป็นงบประมาณทำทีมจากชีกมานซูร์ บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน มหาเศรษฐีเจ้าของทีมผ่านสปอนเซอร์สายการบิน ในช่วงเวลาดังกล่าว จงใจตกแต่งตัวเลขในบัญชี เพื่อเลี่ยงกฎไฟแนนเชียล แฟร์เพลย์ จึงสั่งแบนจากการแข่งขันบอลยุโรป 2 ปี พร้อมปรับเงิน 30 ล้านยูโร (1,050 ล้านบาท)
แต่แมนฯ ซิตี้ที่มั่นใจว่าไม่ได้ทำผิด เดินหน้ายื่นอุทธรณ์ต่อศาลกีฬาโลก ซึ่งในขั้นตอนการพิจารณาเมื่อเดือนมิถุนายน แมนฯ ซิตี้ยอมรับมีอีเมลกว่า 5.5 ล้านฉบับถูกแฮคออกไป ซึ่งยูฟ่าใช้อีเมล 6 ฉบับมาลงโทษสั่งแบนจากบอลยุโรป แต่ซีเอเอสมองว่าหลักฐานเหล่านั้นไม่เพียงพอที่จะพิสูจน์ได้ว่าแมนฯ ซิตี้ทำผิดกฎไฟแนนเชียล แฟร์เพลย์ จึงมีมติกลับคำตัดสินเรื่องโทษแบนของซิตี้ในเดือนกรกฎาคม แต่ซีเอเอส ยืนยันว่าแมนฯ ซิตี้ไม่ให้ความร่วมมือในการสอบสวนของยูฟ่าจริง จึงให้ลงโทษปรับเงิน 10 ล้านยูโร (350 ล้านบาท) ลดลงจากเดิม 30 ล้านยูโร
ขณะเดียวกันในเอกสารชี้แจงของศาลกีฬาโลกยังระบุอีกว่าเมื่อวันที่ 9 มีนาคม บรรดา 9 สโมสรในพรีเมียร์ลีก ได้แก่ อาร์เซน่อล, เบิร์นลีย์, เชลซี, เลสเตอร์ ซิตี้, ลิเวอร์พูล, แมนฯ ยูไนเต็ด, นิวคาสเซิล, สเปอร์ส และวูล์ฟแฮป์ตัน เคยยื่นเรื่องคัดค้านการพิจารณาอนุมัติ หากแมนฯ ซิตี้ขอระงับโทษแบนเกมยุโรปชั่วคราวเพื่อหวังจะลงแข่งขันยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาลหน้าระหว่างรอผลตัดสินคำอุทธรณ์ แต่สุดท้ายแมนฯ ซิตี้ก็ไม่เคยยื่นเรื่องในกรณีดังกล่าว เพราะมั่นใจว่าจะได้รับชัยชนะในการอุทธรณ์
ทั้งนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือแมนฯ ซิตี้ เคยให้สัมภาษณ์ในเชิงไม่พอใจและไม่อยากให้ความเคารพเกี่ยวกับพฤติกรรมนอกสนามของบรรดาสโมสรต่างๆ ที่รวมหัวกันส่งเรื่องคัดค้านดังกล่าวไปยังศาลกีฬาโลก
