ความตกต่ำของทีมฟุตบอลเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ว่าใหญ่แค่ไหนวันหนึ่งก็ต้องตก อยู่ที่ว่าจะตกมาก-ตกน้อยเท่านั้นเอง
แต่แฟนบอลแทบไม่เคยเห็นทีมชาติ เยอรมนี วูบอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้
อินทรีเหล็กอาจจะตกรอบบอลโลก, บอลยุโรป แต่ไม่นานก็กลับมาตั้งหลักได้ ไม่ใช่ตกยาวถึงขนาด 10 นัดหลังสุด แพ้ซะ 6 เกมแบบทีมชุดปัจจุบัน
การโดนทีมคู่ปรับ เนเธอร์แลนด์ ถล่มยับ 3-0 เมื่อคืนวันเสาร์คือผลแข่งสุดช็อก ไม่ใช่แค่คนเยอรมัน แต่วงการฟุตบอลก็สะเทือนไปด้วย
กุนซือ โยกี้ เลิฟ พยายามสร้างทีมใหม่หลังจากตกรอบแรกฟุตบอลโลกที่รัสเซีย นัดเจอเนเธอร์แลนด์เขาส่ง มาร์ค อุธ กองหน้า ชาลเก้ ลงมายืนหอกตัวเป้าและขยับ โยชัว คิมมิช เข้ามาเล่นมิดฟิลด์ร่วมกับ เอ็มเร่ ชาน – โทนี่ โครส
ผลคือ นอกจากจะไม่มีอะไรดีขึ้น ยังแย่กว่าเดิมซะด้วยซ้ำ โดยเฉพาะเกมรุกที่สุดฝืด มาร์ค อุธ เล่นไม่ได้ เหลือ โธมัส มุลเลอร์ เป็นตัวจบสกอร์แค่คนเดียว เกมริมเส้นก็เชื่องช้า ติโม แวร์เนอร์ ยังไม่เกิดในทีมชาติต่อไป
เยอรมนี ไม่ถึงขั้นเล่นห่วย แค่มันดูไม่เหมือนเยอรมนี เมื่อก่อนเคยเก็บบอลแน่นอน แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่
ช่วง 2 ปีก่อน เคยเป็นทีมที่เล่นบอลเร็วมาก ตอนนี้ก็ไม่เหมือนเดิมซะแล้ว
การแพ้เนเธอร์แลนด์ 0-3 ทำให้อินทรีเหล็กตกที่นั่งลำบากในศึกเนชั่นส์ลีก ถ้าวันอังคารนี้ไปแพ้แชมป์โลก ฝรั่งเศส ซ้ำอีก โอกาสตกชั้นไปอยู่ลีก B ก็เป็นไปได้สูง
ไม่แปลกที่เริ่มมีกระแสเรียกร้องให้ปลดโยกี้ เลิฟ
ปกติแล้วสหพันธ์ฟุตบอลเยอรมนี มีจุดยืนที่หนักแน่น ยึดมั่นในหลักการ ไม่เคยหวั่นไหวตามกระแส
แต่กรณีของกุนซือเลิฟ ถ้าโดนฝรั่งเศสยำเละจริงๆ เยอรมนี อาจจะนิ่งต่อไปไม่ไหวนะครับ
